รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ทั้งการจัดแสดงละคร “พระมหาชนก เดอะ ฟีโนมีนอน ไลฟ์ โชว์” ถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตลอดจนการจัดฉายภาพยนตร์การ์ตูนอนิเมชั่น “พระมหาชนก” ได้มีประชาชนให้ความสนใจมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก ถือว่าทุกคนได้ช่วยกันทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณคณะรัฐมนตรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน โดยขอให้นำแนวทางที่ประชาชนคนไทยยึดเป็นหลักในการปฏิบัติว่าทุกคนจะต้องมีความรักความสามัคคีต่อกัน ส่วนข้าราชการทั้งหลายก็ควรยึดคำปฏิญาณที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณไว้ว่าเป็นข้าราชการที่ดีมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและปฏิบัติราชการ
รวมทั้ง นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงนโยบายเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะในเรื่องการจ่ายเงินไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าว ยางพารา การให้สินเชื่อ การให้เงินกู้เพื่อประกอบอาชีพเสริมว่า จากที่ได้มีการตรวจสอบจากผู้ที่เกี่ยวข้องพบว่าในแนวทางของการกำหนดนโยบายคาดน่าจะมีความสมบูรณ์แล้ว ขณะที่ภาคการขับเคลื่อนโดยคณะมนตรีทุกคนก็ได้ทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ แต่อย่างไรก็ตามพบว่ายังไปล่าช้าอยู่ในขั้นของการปฏิบัติ ดังนั้นนายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ไปดูว่าความล่าช้าที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด แล้วดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 2 กรณีควบคู่กันไป คือความรวดเร็วและความละเอียดรอบคอบด้วย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้มีการทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ทั้งเงินที่จ่ายไปและเงินที่ให้สินเชื่อมีความคืบหน้าไปมากน้อยเพียงใด ขณะเดียวกันต้องทำความเข้าใจกับสังคมไปพร้อมกันด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและตรงกัน รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสอบถามหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องที่รัฐบาลส่งเสริมให้มีโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางในประเทศไทยมีความคืบหน้าไปมากน้อยเพียงใดนั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชี้แจงว่า ขณะนี้ดำเนินการสำเร็จแล้ว โดยโรงงานอยู่ที่จังหวัดระยอง 1 โรง และได้มีการแสดงความจำนงจากต่างประเทศเข้ามาอีกประมาณ 9-10 โรง คาดว่าน่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปีหน้า ซึ่งตรงนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ประชาชนเกษตรกรเกิดความมั่นใจว่าแรงซื้อจะมีมากขึ้น ประกอบกับรัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยืนยันว่าเม็ดเงินที่มีอยู่พร้อมที่จะซื้อเพื่อจะจูงราคาให้ได้ 60 บาท และจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องปีใหม่ว่า เรื่องของขวัญอย่าได้กังวลมาก อะไรที่เป็นของขวัญก็เป็นของ แต่อะไรที่ไม่ใช่ของขวัญก็อย่าพยายามผลักมาให้เป็นของขวัญ เช่น เรื่องภาษี เป็นเรื่องอนาคตวันข้างหน้า เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าสังคมมีความเข้าใจว่าอะไรที่รัฐบาลทำให้ประชาชนแล้วมีผลต่อการดำรงชีวิตในวันนี้ อย่างนี้เรียกว่าเป็นของขวัญ จึงต้องเข้าใจให้ชัดเจนและแยกให้ถูกต้อง
รวมทั้งขอให้มีการดูแลประชาชนในการเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานว่า ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่และข้าราชการของแผ่นดินทุกคนต้องตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของตนเองและให้บริการกับประชาชน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้มากที่สุด และสามารถเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะต้องมีการดูแลในเรื่องการดื่มสุราแล้วขับอย่างเข้มงวดด้วย เป็นต้น
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th