นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า องค์กรเพื่อการปฏิรูปกฎหมายที่ดำเนินการเป็นอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายชุดนี้ ได้ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการจัดสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อจะปรับปรุงและพัฒนากฎหมายสวัสดิการผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการรองรับที่ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยมีการคาดการณ์ว่าในอีกประมาณ ๒๐ ปีข้างหน้า จะมีจำนวนประชากรผู้สูงอายุสูงถึง ๑๖ ล้านคน หรือประมาณ ๒๕ เปอร์เซ็นของประชากรทั้งประเทศ ทั้งนี้ ประเทศไทยได้มีกฎหมายและนโยบายเกี่ยวกับสวัสดิการผู้สูงอายุหลายฉบับ โดยเฉพาะพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ.๒๕๔๖ ซึ่งไม่ได้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน และยังไม่เหมาะสมเพียงพอต่อการดูแลผู้สูงอายุ การจัดสวัสดิการแก่กลุ่มผู้สูงอายุต้องตระหนักถึงความครอบคลุมและสามารถตอบสนองความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมายในเชิงพื้นที่ โดยสวัสดิการสังคมมี ๔ ด้าน คือ การบริการสังคม การช่วยเหลือทางสังคม การประกันสังคม และการช่วยเหลือเกื้อกูลของภาคประชาชน ซึ่งกฎหมายด้านสวัสดิการผู้สูงอายุของประเทศไทยในปัจจุบัน ยังไม่ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับกับสภาพดังกล่าว
นายวิเชียร กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ร่วมกับสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ และมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.)จัดเวทีสาธารณะเรื่อง "แนวทางการขับเคลื่อนร่างพระราชบัญญัติคุ้มครอง ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ พ.ศ.....” เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนในแต่ละภูมิภาคได้เข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อการปฏิรูปกฎหมายนี้ และได้จัดทำความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยสวัสดิการสังคมเพื่อผู้สูงอายุ โดยได้ยกร่างพระราชบัญญัติคุ้มครอง ส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ พ.ศ..... ขึ้นมาเป็นแนวทาง อยู่บนหลักการพื้นฐานสำคัญ คือ ๑)การขยายการคุ้มครองสิทธิและเข้าถึงสิทธิ ๒)การกระจายอำนาจ ในการจัดโครงสร้างคณะกรรมการ กองทุน และการบริหารจัดการ และ ๓)การมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม และผู้เกี่ยวข้อง
"สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เป็นการเผยแพร่แนวทางการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยสวัสดิการสังคมเพื่อผู้สูงอายุ การเสริมสร้างเครือข่าย และความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และหน่วยงานภาครัฐกับคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ในการประสานความร่วมมือเพื่อการขับเคลื่อนร่างพระราชบัญญัติคุ้มครอง ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ พ.ศ....."ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าว จะเป็นเครื่องมือในการดูแลคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในอนาคต และนำไปสู่การขับเคลื่อนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้สูงอายุในการใช้ชีวิต ในสังคมต่อไป" นายวิเชียร กล่าวตอนท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th