เลขาธิการ CITES ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการค้างาช้างของประเทศไทย

ข่าวทั่วไป Thursday December 11, 2014 16:44 —สำนักโฆษก

Mr. John E. Scanlon เลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ ๓-๔ ธันวาคม ๒๕๕๗ เพื่อมาติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการค้างาช้างของประเทศไทย โดยได้เข้าพบ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และได้เยี่ยมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย หลังจากที่ประเทศไทยได้ยื่นเสนอแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทยต่อสำนักเลขาธิการอนุสัญญา CITES เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ประเทศไทยจะต้องรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการดังกล่าวต่อสำนักเลขาธิการ CITES ภายในกลางเดือนมกราคม และปลายเดือนมีนาคม ๒๕๕๘

เมื่อเร็ว ๆ นี้ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้การต้อนรับและแจ้งให้ Mr. John E. Scanlon ทราบว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญเรื่องการลักลอบค้างาช้าง และถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกหน่วยงานจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา และดำเนินการให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปัญหาการค้างาช้างที่ผิดกฎหมายภายในประเทศไทยได้ขยายวงกว้างขึ้น และมีความเชื่อมโยงกับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ หากประเทศไทยไม่แก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ลุล่วง ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศได้

ขณะนี้ ประเทศไทยได้เร่งดำเนินการออกกฎหมายใหม่และปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเดิมที่มีอยู่ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชบัญญัติการค้างาช้าง พ.ศ. .... การแก้ไขกฎกระทรวงให้ช้างแอฟริกาเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการสัตว์พาหนะ พ.ศ. ๒๔๘๒ รวมทั้งกฎระเบียบที่เป็นกฎหมายรองมากกว่า ๑๐ ฉบับ เพื่อควบคุมการค้างาช้างในประเทศให้ถูกกฎหมายและป้องกันการลักลอบการนำงาช้างผิดกฎหมายเข้าสู่ระบบ มีการจัดทำระบบฐานข้อมูลผู้ครอบครองและผู้ค้างาช้าง ในการบังคับใช้กฎหมายได้มีการจัดตั้งชุดปฏิบัติการร่วม/สายตรวจการค้างาช้าง ตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมายทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มความเข้มข้นในเรื่องการประชาสัมพันธ์ สร้างจิตสำนึก โดยผ่านช่องทางต่างๆ ให้แพร่หลายมากขึ้น ซึ่งการดำเนินงานทุกมาตรการเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กล่าวเน้นย้ำให้ เลขาธิการ CITES ทราบว่า ประเทศไทยมีความผูกพันและให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ช้าง ซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมือง อีกทั้งขอให้สำนักเลขาธิการ CITES ช่วยประสานแจ้งและทำความเข้าใจกับประเทศภาคีในคณะกรรมการบริหารอนุสัญญา CITES ให้เข้าใจด้วยว่า ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการค้างาช้างที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งจะเร่งดำเนินการทุกวิถีทางที่จะหยุดการลักลอบนำเข้างาช้างแอฟริกาเข้ามาในประเทศไทยโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ Mr. Scanlon ได้กล่าวว่า เห็นถึงความตั้งใจและจริงจังในการดำเนินการแก้ปัญหาการค้างาช้างของประเทศไทย ซึ่งได้รับทราบว่าช้างถือเป็นสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองของไทย และมีความผูกพันกับประวัติศาสตร์ราชวงค์ไทยมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ จะนำข้อมูลดังกล่าวแจ้งต่อคณะกรรมการบริหาร (Standing Committee) ของ CITES เพื่อให้มีความเข้าใจประเทศไทยมากขึ้น

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


แท็ก งาช้าง  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ