รมว.วท. กล่าวว่า โครงการ “คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน” มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้ทุกกระทรวงช่วยกันคิดของขวัญให้กับประชาชน ซึ่ง วท.และ ศธ.ได้หารือกันและพบว่า ศธ.มีความสมบูรณ์เรื่องสถานที่ โดยเฉพาะศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย การเดินทางสะดวก อีกเหตุผลหนึ่งคือ วท.ได้ดำเนินการสร้างความตระหนักให้กับสังคม เพื่อให้เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ และหันมาสนใจวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น อีกทั้ง วท.ก็มีองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และมีการจัดกิจกรรมทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง จึงต้องการจัดกิจกรรมให้เยาวชนได้ดู และทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการนำเอาสิ่งที่คาดว่าเยาวชนจะให้ความสนใจ สามารถเรียนรู้ และจับต้องได้ เพื่อดึงให้เยาวชนกลับมาสนใจวิทยาศาสตร์มากขึ้น นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม กล่าวคือ วท.มีนิทรรศการและสิ่งที่ให้เยาวชนเรียนรู้ได้มากมาย โดยกระจายผ่านเครือข่ายที่กว้างขวางของ ศธ.
การดำเนินโครงการฯ มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเพื่อนำไปสู่ “สังคมนวัตกรรม” คือสังคมที่เยาวชนมีความสร้างสรรค์ สังคมที่นักประดิษฐ์ของไทยสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ต้องอาศัยระบบที่เอื้ออำนวยจากพื้นฐาน ซึ่งก็คือ ศธ.ที่ถือเป็นรากฐานสำคัญของประเทศ และ วท.มีหน้าที่ในการสร้างความตระหนักทางวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชนด้วย
โครงการ “คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน” แบ่งออกเป็น 2 กิจกรรมใหญ่ คือ 1) นิทรรศการ “ดาราศาสตร์ บันดาลใจ” 2) กิจกรรม “สนุกวิทย์ สนุกคิด” โดยนิทรรศการ “ดาราศาสตร์ บันดาลใจ” จะเป็นการเนรมิตพื้นที่กว่า 600 ตารางเมตร ภายในศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ให้เป็นนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ โดยความร่วมมือและการสนับสนุนขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (สทอภ.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ทั้งหมดนี้จะเป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียน เรียนรู้ด้วยความสุข ความสนุก ด้วยสื่อ Interactive ที่จะสร้างความตื่นเต้นให้แก่เยาวชน ความรู้นอกห้องเรียนจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนในห้องเรียนได้ในที่สุด
นิทรรศการ “ดาราศาสตร์ บันดาลไจ” มีไฮไลท์ที่น่าสนใจ ได้แก่ ชุดนิทรรศการพระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยกับพัฒนาการทางด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ (สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นต้น) โลกและเอกภพในมุมมองดาราศาสตร์, คณิตศาสตร์กับการคำนวณดาราศาสตร์, นิทรรศการการบิน และเส้นทางสู่การเป็นนักวิทยาศาสตร์ Science Idol
สำหรับพิธีเปิดโครงการ “คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน” มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 17 ธันวาคม 2557 โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศธ. กล่าวว่า การจัดทำโครงการ “คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน” เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้เด็กและเยาวชนเห็นว่าวิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นเพียงวิชา 1 ใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัว โครงการนี้จะช่วยให้เยาวชนมีความเข้าใจในวิทยาศาสตร์มากขึ้น และพ่อแม่ ผู้ปกครองก็มีส่วนสำคัญในการสร้างความเข้าใจให้กับเยาวชน
รัฐบาลมีนโยบายที่ต้องการให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ แต่การจะแข่งขันได้นั้น คนไทยต้องมีความตระหนัก มีความคิดและความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ ในโอกาสที่รัฐบาลมีแนวทางที่จะคืนความสุขให้ประชาชน ศธ.จึงร่วมมือกับ วท.จัดกิจกรรมที่มุ่งเน้นเด็กและเยาวชน ใช้สถานที่ของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ซึ่งมีอายุถึง 50 ปีแล้ว และเป็นศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ในการจัดโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นทั้งของขวัญปีใหม่และของขวัญวันเด็ก เพื่อให้เยาวชน รวมถึงพ่อแม่ ผู้ปกครองเกิดความตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจ โดยหวังว่าการเดินชมนิทรรศการแบบจับต้องได้ จะทำให้เยาวชนเข้าใจวิธีคิด และวิธีทำงานแบบวิทยาศาสตร์
นอกจากการจัดโครงการ “คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน” แล้ว ทั้งสองกระทรวงได้ดำเนินความร่วมมือในอีกหลายโครงการ เช่น โครงการระบบสื่อสาระออนไลน์เพื่อการเรียนรู้ทางไกลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โครงการจัดการเรียนรู้ทางด้านสะเต็มศึกษา (STEM – Science, Technology, Engineering, Mathematics) ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงวัยทำงาน และโครงการส่งเสริมให้นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจากภาครัฐไปปฏิบัติงานกับภาคเอกชน (Talent Mobility) เพื่อช่วยขับเคลื่อนงานวิจัย พัฒนา และการเปลี่ยนแปลงในภาคอุตสาหกรรม
ปลัด วท. กล่าวว่า ในส่วนของกิจกรรม “สนุกวิทย์ สนุกคิด” จัดโดย 12 หน่วยงานในสังกัด วท. ระหว่างวันที่ 17 – 26 ธันวาคม 2557 (10 วัน) เนื่องจากเป็นกิจกรรมนอกอาคาร มีไฮไลท์ที่น่าสนใจ เช่น การทดลองขับรถไฟฟ้าจากแบบจำลองหัวรถไฟฟ้า (Train Driving Simulator) จาก สวทช. การแสดงโชว์เครื่องบินเล็กสำหรับตรวจในพื้นที่ที่มีรังสีสูง และหุ่นยนต์ช่วยเก็บกู้วัสดุกัมมันตภาพรังสี จากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ การใช้ประโยชน์จากนิวเคลียร์ โรงไฟฟ้าปรมาณู และประโยชน์ของสารกัมมันตภาพรังสีในทางการแพทย์ จากสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) รวมถึงกิจกรรมคาราวานวิทยาศาสตร์ จาก อพวช. เป็นต้น
ปลัด ศธ. กล่าวเชิญชวนพ่อแม่ ผู้ปกครอง นักเรียนนักศึกษา เยาวชนและประชาชนทั่วไปในการเข้าชมนิทรรศการและร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอด 10 วัน (17-26 ธันวาคม 2557) อาทิ การชมท้องฟ้าจำลองในห้องฉายดาวและภาพยนตร์แบบเต็มโดม นิทรรศการถาวรภาพยนตร์ 3 มิติ นิทรรศการดวงดาวกับชีวิต กิจกรรมประดิษฐ์แผนที่ดาวและปฏิทินล่วงหน้า (ปี พ.ศ. 2565) นิทรรศการไดโนเสาร์ ขุมทรัพย์โลกสีเขียว โลกของแมลง เมืองเด็ก และชีวิตพิศวง เป็นต้น
นอกจากนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ 16 แห่งทั่วประเทศ จะจัดกิจกรรมโครงการดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกันในวันที่ 17 ธันวาคม 2557 จนถึงวันเด็กแห่งชาติในปี 2558 อีกทั้งสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่การให้บริการของศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ จะจัดห้องสมุดประชาชนเคลื่อนที่ของจังหวัดเข้าร่วมโครงการฯ ด้วย
กุณฑิกา พัชรชานนท์
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
12/12/2557
ที่มา: http://www.thaigov.go.th