รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมสวดมนต์เจริญสติพร้อมกันในคืนส่งท้ายปีนี้ เพื่อมุ่งหลอมรวมใจคนไทยทั้งชาติส่งความสุขให้กับตนเอง ครอบครัว และสังคมประเทศชาติโดยรวมซึ่งเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่วัฒนธรรมการสวดมนต์ข้ามปีได้หยั่งรากลงในสังคมไทยแล้ว จากการสำรวจโดยศูนย์วิจัยเอแบคโพลล์ พบว่า ประชาชนกว่า 88% ต้องการสวดมนต์ข้ามปี ไหว้พระ ทำบุญ ในช่วงส่งท้ายปีเพื่อต้อนรับปีใหม่ด้วยจิตอันเป็นกุศล สำหรับปีนี้รัฐบาล โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสนับสนุนให้วัดกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศร่วมกันจัดงานสวดมนต์ข้ามปี ซึ่งมีศูนย์กลางของประเทศที่พุทธมณฑลและวัดปากน้ำภาษีเจริญโดยมุ่งหวังให้เป็นจุดเริ่มต้นที่วัดและศาสนสถาน เป็นศูนย์กลางของชุมชนในการสวดมนต์ภาวนาตลอดทั้งปี และเป็นสถานที่ทำกิจกรรมร่วมกันของชุมชน เพื่อให้เป็นพื้นที่สุขภาวะของชุมชนครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนทุกคนได้มีโอกาสไปร่วมสวดมนต์ข้ามปีพร้อมกันที่พุทธมณฑล วัดปากน้ำ หรือวัดใกล้บ้านตามความสะดวกและเหมาะสม เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 87 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา และเพื่อก้าวข้ามสู่ปี 2558 อย่างสร้างสรรค์และเป็นสิริมงคลทดแทนการเฉลิมฉลองด้วยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสิ่งเสพติด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการบาดเจ็บและสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุจราจร ทั้งนี้ เพื่อให้เทศกาลปีใหม่ครั้งนี้ เป็นเทศกาลแห่งการส่งความสุขอย่างแท้จริงต่อไป
พร้อมกันนี้ พระพรหมเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม ได้กล่าวว่า การสวดมนต์ เป็นหลักปฏิบัติเบื้องต้นที่สำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชน มีอานิสงส์มากมายถึง 10 ประการ ได้แก่ 1. ก่อให้เกิดความรู้สึกนึกคิดที่เปี่ยมล้นด้วยพลังแห่งความดีงาม ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง 2. ช่วยคลายความเครียด 3. ทำให้จิตใจสงบนิ่งเยือกเย็น ลดความเร่าร้อนทางอารมณ์โทสะ โมหะ อิจฉาริษยา 4.ทำให้หลับสบายตื่นมาก็เป็นสุข 5.ช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหารและกระเพาะที่เกิดจากความเครียด 6. การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 7. เกิดความคิดสร้างสรรค์ 8. มีวิสัยทัศน์กว้างไกล 9. เป็นที่รักและเป็นที่เมตตาทั้งเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย และ 10. ครอบครัวมีอนาคต เพราะรู้จักยับยั้งชั่งใจ มีสติรู้ผิดชอบชั่วดี มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป ซึ่งหากทุกคนพร้อมใจกันสวดมนต์ ย่อมส่งผลให้สังคมและประเทศชาติสงบสุขได้อย่างแน่นอน
ในขณะเดียวกัน นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พ.ศ.) ได้กล่าวอีกว่า มหาเถรสมาคม มีมติให้ พ.ศ. ร่วมกับทุกวัดในประเทศไทยและวัดไทยในต่างประเทศ สำนักปฏิบัติทั่วประเทศ และ สสส. รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วน จัดกิจกรรมสวดมนต์เจริญจิตตภาวนาข้ามปี ที่พุทธมณฑล มี 2 กิจกรรม คือ 1. การปฏิบัติธรรมข้ามปี ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2557 – 1 มกราคม 2558 และ 2. กิจกรรมการสวดมนต์ข้ามปี ในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 แบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 เวลา 16.00 - 20.45 น. ธรรมสัญจร ชมนิทานธรรม ถือศีล ขอขมากรรม เจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา ช่วงที่ 2 เวลา 20.45 – 22.15 น. อธิษฐานจิตจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สัมโมทนียกถานำพรปีใหม่ โดยพระเถระผู้ใหญ่ พิธีเจริญพระพุทธมนต์เนื่องด้วยนพเคราะห์ และช่วงที่ 3 เวลา 22.15 – 01.00 น. เป็นพิธีถวายราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ พร้อมบรรยายธรรมส่งความสุขปีใหม่ 2558 และกิจกรรมการสวดมนต์ข้ามปี โดยพระพรหมเมธีและพระเถระชั้นผู้ใหญ่ สัมโมทนียกถาอำนวยพรปีใหม่ โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสเข้าร่วมงานฯ ได้ที่วัดหรือสถานปฏิบัติธรรมทุกแห่งโดยพร้อมเพรียงกัน
อนึ่ง ทันตแพทย์ กฤษดา เรืองอารีย์รัชย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. ได้กล่าวในตอนท้ายของการแถลงข่าวครั้งนี้ว่า สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้วซึ่งมีเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีเพิ่มมากขึ้นทุกปี จนกลายเป็นกระแสใหญ่ของสังคมแทนที่การฉลองด้วยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปแล้ว สำหรับปีนี้มีแนวคิดหลักของงานคือการส่งความสุข (ส.ค.ส.) ให้แก่ตนเองและญาติมิตรด้วยการสวดมนต์ ซึ่งการสวดมนต์ภาวนาเป็น 1 ใน 8 วิธีค้นพบความสุขที่แท้จริงของชีวิต โดยประชาชนสามารถร่วมสวดมนต์ข้ามปีได้ที่วัดใกล้บ้าน หรือมาที่พุทธมณฑลจังหวัดนครปฐม ทั้งนี้ จะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ตังแต่เวลา 22.30 – 00.30 น. เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ทางบ้าน ได้ร่วมสวดมนต์ส่งท้ายปีใหม่พร้อมกันทั่วประเทศอีกด้วย
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
พัณณ์วรินทร์ อินโท่โล่ รายงาน
ดวงใจ กล่อมจิตต์ ตรวจ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th