วันนี้ (15 ธันวาคม 2557) นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการเฝ้าระวังโรค อีโบลาในประเทศ ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เฝ้าระวังหญิงต่างชาติ 1 ราย อายุ 40 ปี เดินทางกลับจากการทำงานที่ประเทศกินี มาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2557 และได้รายงานตัวเข้าสู่ระบบเฝ้าระวังโรค โดยในวันที่ 10 ธันวาคม 2557 ได้รับตัวเข้าสังเกตอาการในโรงพยาบาลในสังกัด เพื่อให้การดูแลตามมาตรฐานอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีไข้ ได้เจาะเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ และติดตามผู้สัมผัสซึ่งเป็นคนในครอบครัวและผู้ร่วมงานรวม 18 คนเป็นเวลา 21วัน ตามมาตรฐานที่กำหนด
นายแพทย์วชิระกล่าวต่อว่า แพทย์ได้เจาะเลือดส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 10 ธันวาคม 2557 และวันที่ 14 ธันวาคม 2557ผลการตรวจยืนยันตรงกันทั้ง 2 ครั้ง ไม่พบการติดเชื้อไวรัสอีโบลา แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ (FluA H3) อาการดีขึ้นไม่มีไข้ และอนุญาตให้กลับบ้านได้ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2557 และได้ยกเลิกการติดตามผู้สัมผัสทั้ง 18 คนแล้ว
ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทยยังดำเนินมาตรการเฝ้าระวังโรคอีโบลาตามระบบที่วางไว้ทุกวัน โดยจะตรวจคัดกรองผู้ที่มีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่ระบาดตามประกาศเขตติดโรคของกระทรวงสาธารณสุข ในทุกๆช่องทาง ทั้งที่ด่านสนามบิน ด่านท่าเรือ และด่านชายแดน และติดตามอาการจนครบ 21 วันตามมาตรฐานที่กำหนด หากมีไข้จะรับเข้าดูแลในโรงพยาบาลที่จัดเตรียมไว้ทั้งในกทม. และต่างจังหวัด เพื่อให้การรักษาตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ และจะติดตามอาการผู้สัมผัสทุกคน ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบการเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะช่วยให้สามารถตรวจจับและป้องกันควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ผ่านมายังไม่พบผู้เดินทางติดเชื้ออีโบลา
สำหรับผลการตรวจคัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่ระบาดวานนี้ (14 ธันวาคม 2557) ที่สนามบินสุวรรณภูมิมี 19 คน ไม่มีรายใดมีไข้ ยอดตรวจสะสมตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2557 เป็นต้นมา รวมทั้งหมด 3,503 คน ส่วนใหญ่มาจากกินี 1,009 คน ไลบีเรีย 133 คน เซียร์ร่าลีโอน 107 คน คองโก 333 คน มาลี 137 คน และอื่นๆ 1,784 คน ทุกคนปกติ
15 ธันวาคม 2557
ที่มา: http://www.thaigov.go.th