สำหรับในปีงบประมาณ 2558 เพื่อเป็นการคืนความสุขให้แก่ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดแผนงานที่จะดำเนินการออกหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐให้แก่ราษฎรที่ยากจนไม่มีที่ทำกิน เป้าหมายจำนวน 5,000 แปลง ในพื้นที่ 22 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ ชุมพร เชียงใหม่ ตาก นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง ลพบุรี ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ สุพรรณบุรี หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้มี 5 จังหวัด (จังหวัดตาก ศรีสะเกษ สุพรรณบุรี อุดรธานี และจังหวัดมุกดาหาร) ได้ดำเนินการตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อออกหนังสืออนุญาตฯ และได้จัดส่งโครงการมายังกรมที่ดินแล้ว จำนวน 784 แปลง ซึ่งกรมที่ดินจะรีบดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลต่อไป และภายในเดือนธันวาคม นี้ กระทรวงมหาดไทยจะเริ่มมอบหนังสืออนุญาตฯ ให้แก่ราษฎรที่ผ่านหลักเกณฑ์และขั้นตอนการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และชุมพร จำนวน 874 ครัวเรือน จำนวน1,042 แปลง คิดเป็นพื้นที่ 6,000 ไร่ เพื่อให้ราษฎรสามารถเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐได้อย่างถูกต้อง เกิดความมั่นคงในการถือครองที่ดิน และในวันพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.) ตนจะเดินทางไปมอบหนังสืออนุญาตฯ ให้แก่ราษฎรในพื้นที่อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ซึ่งมีราษฎรได้รับการจัดสรรที่ดิน จำนวน 327แปลง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังมีที่ดินของกรมป่าไม้ได้กั นเขตไว้เพื่ออนุญาตให้ราษฎรที่ยากจนในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยจัดสรรให้แก่ราษฎรยากจนเข้าไปทำกินหรือใช้ประโยชน์ทำกินตามหลักเกณฑ์ซึ่งจะได้ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ สำหรับโครงการจัดที่ดินของรัฐขจัดความยากจน กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 – ปัจจุบัน สามารถจัดสรรที่ดินให้แก่ราษฎรแล้ว 89,235 ครัวเรือน จำนวน 105,914 แปลง เนื้อที่ประมาณ 402,070 ไร่ ในพื้นที่ 59 จังหวัด ช่วยให้ราษฎรมีที่อาศัยทำกินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ลดปัญหาการบุกรุกที่ดินเพิ่มเติม และช่วยให้ราษฎรผู้ยากไร้ได้มีทุนในที่ดินที่มั่นคง ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น รวมถึงลดความขัดแย้งระหว่างภาครัฐกับประชาชนอันเนื่องมาจากการไม่มีที่ดินทำกินอีกด้วย ทั้งนี้ ได้กำชับให้กรมที่ดินเร่งรัดดำเนินการในพื้นที่เป้าหมายให้แล้วเสร็จตามที่กำหนดไว้ รวมทั้งให้หน่วยงานในพื้นที่บูรณาการร่วมกันในการให้ความช่วยเหลือดูแลด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ขุดสระน้ำ สร้างถนนลำลอง หรือระบบส่งน้ำให้แก่ราษฎรในพื้นที่ด้วย.
ที่มา: http://www.thaigov.go.th