พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในโอกาสตรวจเยี่ยมกิจกรรมของศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานจังหวัดปทุมธานีและประชุมมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดปทุมธานีและติดตามผลการปฏิบัติงาน ณ ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานจังหวัดปทุมธานี ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2557 ในโอกาสเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานจังหวัดขอนแก่น ว่าทำอย่างไรให้คนทำงานปลอดภัยตั้งแต่อยู่ในสถานที่ทำงาน ซึ่งกระทรวงแรงงานได้น้อมรับพระราชดำรัส โดยการรณรงค์สร้างจิตสำนึกสร้างความปลอดภัยในสถานประกอบการ เน้นการปฏิบัติทุกโรงงาน ดำเนินการทั้งปี 2558 และน้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์มาเป็นหลักชัยในการทำงาน ถ้าเราทำงานตรงนี้ได้ดี ลูกค้าของศูนย์ฟื้นฟูจะน้อยลง เนื่องจากผู้รับบริการจะมีอยู่ 2 ส่วน คือ ผู้พิการและทหารผ่านศึก ทำให้ปัญหาคลี่คลาย ป้องกันได้ รณรงค์ความปลอดภัยในสถานประกอบการและบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ละเลย โดยเฉพาะการจัดระบบโรงงานขนาดเล็กให้ส่งเสริมความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อว่า เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพฯ ที่พระองค์ทรงห่วงใยเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน ดังนั้นเราจึงให้ความรู้แก่ลูกจ้างเป็นหลัก โดยการสร้างจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัย (Safety Mind) ของนายจ้างและผู้ประกอบการ ให้สถานประกอบการมีอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน สำหรับแผนงานที่กำหนดจะให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างจิตสำนึก ให้ความรู้ คำแนะนำเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานเป็นมาตรฐานเดียวกัน สร้างเครือข่ายให้เข้มแข็ง ตรวจสถานประกอบการ และให้รางวัลเพื่อเป็นการชื่นชม ทั้งนี้เชื่อว่าหากความปลอดภัยเพิ่มขึ้น อุบัติเหตุจะน้อยลง ส่วนกรณีที่ผู้ที่เข้ารับการฟื้นฟูฯ ส่วนใหญ่จะประสบอันตรายจากไฟฟ้าช็อตจนเป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อตายจนต้องพิการแขน ขานั้น เรื่องดังกล่าวเบื้องต้นต้องเชิญหน่วยงานด้านการไฟฟ้าเข้ามาร่วมกันหารือทำความเข้าใจเพื่อหาวิธีการป้องกันให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันเราต้องให้ผู้ใช้แรงงานป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าเองด้วย ส่วนการดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูฯ ทำให้คนทำงานที่ประสบเหตุได้รับการดูแลใน 3 ด้าน ทั้งด้านการแพทย์ อาชีพ และจิตใจ ทั้งนี้เห็นว่าการฟื้นฟูจิตใจเป็นสิ่งสำคัญ เป็นสิ่งแรกที่ต้องได้รับการฟื้นฟูก่อน ทั้งฟื้นฟูระหว่างฝึกอาชีพ และขณะไปประกอบอาชีพ เพื่อให้มีกำลังใจ ไม่รู้สึกท้อแท้ในชีวิตตั้งแต่เข้ามารับการฟื้นฟูในวันแรก
" ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่เข้ารับการฟื้นฟูได้รับความรู้จากการฟื้นฟู วันนี้ท่านบาดเจ็บคงกลับไปไม่ได้ แต่ท่านได้อาชีพใหม่จากการฟื้นฟู วันนี้เราต้องถือวิกฤตเป็นโอกาสที่ได้ฟื้นฟูตัวเองฟื้นฟูจิตใจ เพื่อกลับไปทำงานอีกครั้ง ขอให้ทุกท่านอดทนในการฟื้นฟูร่างกาย เข้าใจในสัจธรรมของชีวิต เพื่อมีพลังในการดำเนินชีวิตต่อไปอย่างดีงาม "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว
กลุ่มงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
ที่มา: http://www.thaigov.go.th