วันนี้ (28พ.ย.57) เวลา 12.25 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ภายหลังกลับจากการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลการทุจริตว่า ฝ่ายกระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินการ ซึ่งมี 10 กว่าคณะ โดยรัฐบาลจะมีการติดตามความคืบหน้า อย่างไรก็ตามปัญหาคือไม่ใช่การคอยจับผิดหรือใช้กฎหมาย แต่สิ่งสำคัญคือจิตใจคน โดยเฉพาะ 1) เจ้าหน้าที่ 2) คนที่สมยอม เป็นการกระทำผิดทั้งคู่หรือไม่ เพราะต้องการได้รับผลประโยชน์จึงต้องยอมจ่ายเงินให้เขาไป และ 3) คนที่อยู่ข้างนอกไม่ได้อะไร แต่ก็ถูกรวมเข้าไปด้วย ซึ่งใครผิดหรือถูกบางครั้งก็ไม่ทราบ ฉะนั้นต้องแก้ที่จิตใจของคนให้ได้ โดยใจทุกคนต้องให้ความเป็นธรรมก่อนจะมีการสอบสวน และต้องเข้าสู่กระบวนการแข่งขันในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นธรรม เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเรียกรับผลประโยชน์ต่างตอบแทน อย่างไรก็ตามหากประชาชนพบเห็นการทุจริตและมีหลักฐานก็สามารถแจ้งมายังเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป อย่าแจ้งมาโดยไม่มีหลักฐานเพราะอาจจะถูกฟ้องกลับได้เช่นกัน ส่วนนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในคณะกรรมการดังกล่าวด้วยตนเองหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะเป็นประธานหรือไม่ นายกรัฐมนตรีก็พร้อมรับผิดชอบในฐานะนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการจัดการเลือกตั้งว่า เป็นไปตามขั้นตอนหรือโรดแมปที่กำหนดไว้ โดยขึ้นอยู่กับการร่างรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการหารือร่วมกันและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง วอนสื่อมวลชนอย่านำทุกเรื่องมารวมกันจนทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคม อย่างไรก็ตามยืนยันไม่เคยปิดกั้นสื่อมวลชน เพียงแต่เป็นการเข้ามาจัดระเบียบและควบคุมให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย โดยขอให้การนำเสนอข้อมูลข่าวสารเป็นไปด้วยความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรี และพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งขอโอกาสในการทำงานเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางและขั้นตอนที่ได้กำหนดไว้ และเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ
พร้อมทั้งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการเจรจาสันติสุขชายแดนภาคใต้ว่าได้อนุมัติหลักการให้ไปดำเนินการเขียนโครงสร้างว่าประกอบด้วยใคร อย่างไร เพื่อจะนำไปหารือร่วมกับรัฐบาลมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกให้ใช้เป็นสถานที่เจรจาสันติสุข ก่อนที่จะมีการเจรจาสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า พร้อมที่จะลดราคาต้นทุนสลากที่ออกโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยจะต้องมีการพิจารณาในเรื่องของสัญญาและค่าการบริหารจัดการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้ได้ราคาสลากที่ประมาณ 70 กว่าบาท ซึ่งกำไรที่ได้ในแต่ละส่วนมีความเป็นธรรมและเหมาะสม ทั้งนี้รายได้ที่ได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นการนำเงินดังกล่าวไปใช้เพื่อการกุศลและนำไปใช้จ่ายในงบประมาณแผ่นดินต่อไป
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th