พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากกรณีชายชาวจังหวัดสตูล อายุ ๕๐ ปี มีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อาศัยอยู่ในกระต๊อบไม่มีบ้านเลขที่ ครอบครัวมีฐานะยากจน ซึ่งต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกชาย อายุ ๒๑ ปี ซึ่งเป็นโรคออทิสติกตั้งแต่กำเนิด และต้องดูแลมารดา อายุ ๘๒ ปี ที่ป่วยเป็นอัมพาตและโรคเบาหวาน ที่จังหวัดสตูล ซึ่งกรณีดังกล่าวตนได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล (พมจ.สตูล)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวในเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลให้ลูกชายที่โรคออทิสติกและมารดาที่ป่วยเป็นอัมพาตและโรคเบาหวาน รวมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตครอบครัวดังกล่าวให้ดีขึ้นในระยะยาวต่อไป
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีสามี อายุ ๔๓ ปี หึงหวงภรรยา อายุ ๓๓ ปี จนใช้ปืนยิงภรรยาและตนเองเสียชีวิต ทิ้งลูกสาววัย ๗ ขวบ และ ๒ ขวบ ให้หลานอายุ ๑๖ ปีดูแล ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นปัญหาการใช้ความรุนแรงแก้ไขปัญหาในครอบครัว โดยตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย (พมจ.เชียงราย)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเร่งช่วยเหลือเยียวยาสภาพจิตใจเด็กทั้งสองที่พ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้สามารถเติบโตและใช้ชีวิตตามปกติในสังคมต่อไปได้
"ทั้งนี้ หากเกิดปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว ขอให้ทุกคนในครอบครัวพูดคุยปรับความเข้าใจ แก้ไขปัญหาโดยใช้เหตุผล และไม่ควรใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียในครอบครัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อลูกในอนาคต” พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวตอนท้าย.
ที่มา: http://www.thaigov.go.th