วันนี้ (30 ธ.ค.57) เวลา 14.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมฯ ถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรีปรารภและสั่งการต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องเทศกาลปีใหม่ โดยฝากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกกระทรวง ทบวง กรม กำกับดูแลข้าราชการของแต่ละกระทรวงตามมาตรการและแผนงานที่มีอยู่ในการช่วยกันดูแลประชาชน ให้เกิดความสะดวกและมีความปลอดภัยในการเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่าหากมึนเมาต้องไม่ขับรถ เพราะหากเมาแล้วอาจเกิดอุบัติเหตุทั้งต่อตนเองและทำให้คนอื่นได้รับความเดือดร้อนไปด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วนเรื่องผลงานรัฐบาล 3 เดือน ที่ผ่านมา ที่ได้ช่วยกันทำงานเพื่อให้สัมฤทธิ์ผลตามที่รัฐบาลได้ให้คำสัญญาไว้กับประชาชน แต่เนื่องจากช่วงแถลงข่าวมีเวลาจำกัดและมีข้อมูลรายละเอียดมากนั้น ข้อมูลผลงานดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นภาพกว้าง เพราะฉะนั้นหลักการรายละเอียดปลีกย่อย รวมทั้งตัวเลขต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นทั้งภาคธุรกิจ ประชาชน กระทรวง ทบวง กรม และส่วนงานประชาสัมพันธ์ทุกส่วนจะต้องช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวเพิ่มอีกครั้ง เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดส่งถึงประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาลว่าเป็นไปตามที่ได้ให้คำสัญญาไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงยุทธศาสตร์ประเทศปี 2558 ว่า จะใช้วิสัยทัศน์ “ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง และอย่างยั่งยืน” และจะเป็นยุทธศาสตร์ประเทศต่อเนื่องไปจนถึงปี 2563 ทั้งนี้การที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวประสบผลสำเร็จก็ขึ้นอยู่กับข้าราชการทุกฝ่ายจะต้องทำงานตามหน้าที่และตามแผนงานที่แต่ละส่วนได้เสนอมาให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ และมีการปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจจริง โปร่งใสสามารถที่จะตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เพราะฉะนั้นข้าราชการทุกภาคส่วนต้องช่วยกันทำหน้าที่ให้เต็มที่ในการช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยให้กับประชาชน ส่วนเรื่องการระบายน้ำนั้น อย่าคิดเพียงประเด็นที่จะระบายในพื้นที่ให้หมดด้วยความรวดเร็วเท่านั้น แต่ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดได้คิดถึงมาตรการและการวางแผนเกี่ยวกับการเก็บกักน้ำเอาไว้ใช้เพื่อรองรับฤดูแล้งที่จะมาถึงด้วย ทั้งแก้มลิง หรือเตาขนมครกในพื้นที่ เป็นต้น
สำหรับประเทศที่ประสบภัยในลักษณะแบบเดียวกันนั้นก็ต้องให้ความช่วยเหลือเช่นเดียวกัน เช่น ประเทศมาเลเซีย หรือประเทศฟิลิปปินส์ โดยขณะนี้ประเทศไทยให้ความช่วยเหลือในเรื่องข้าวไปแล้วประเทศละ 500 ตัน มีมูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท
นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยต่อกรณีเหตุการณ์เครื่องบินโดยสาร AirAsiaเที่ยวบิน QZ8501 เที่ยวบินจากสุราบายา ประเทศอินโดนีเซียไปยังประเทศสิงคโปร์ ได้มีการรายงานว่า ขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบินจาการ์ตา ระหว่างเดินทาง เมื่อเวลา 06.17 น. ขณะกำลังบินอยู่ระหว่างจังหวัดกาลิมันตันและเกาะเบลิตุง โดยไทยพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทุกกรณีหากได้รับการร้องขอ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพิธีรำลึกครบรอบ 10 ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย (Ten Years on : Remembering the Indian Ocean Tsunami) ณ อนุสรณ์สถานสึนามิ เรือ ต. 813 อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้ประชาชนในพื้นที่หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดความมั่นใจในระบบป้องกันและเตือนภัยที่มีอยู่ว่าสามารถเตือนภัยได้อย่างแท้จริง ทั้งการปฏิบัติของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาอยู่ในพื้นที่ ในการซ้อมขั้นตอนการเตือนภัยต่าง ๆ อย่างละเอียดเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน รวมถึงให้มีการตรวจสอบและซ่อมบำรุงอุปกรณ์เตือนภัยให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอและเป็นไปอย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุขึ้น เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการให้แนวทางและนโยบายกับหน่วยงานเกี่ยวข้องและคณะกรรมการในระดับพื้นที่ที่ปฏิบัติงานร่วมกันตามแนวชายแดนเกี่ยวกับเรื่องการปักปันเขตแดนว่า การปักปันเขตแดนต้องแสดงความจริงใจ หากพื้นที่ตรงไหนที่มีความชัดเจนอยู่แล้วและสามารถปักปันเขตแดนได้ขอให้เร่งรัดดำเนินการร่วมกันทั้งสองฝ่าย แต่ตรงไหนที่มีข้อมูลไม่ตรงกันและปักปันเขตแดนไม่ได้ หากดำเนินการต่อไปจะเกิดข้อขัดแย้งนั้นขอให้หยุดไว้ก่อน และให้หันมาพิจารณาเรื่องของการหาประโยชน์ร่วมกันในเรื่องของการพัฒนาเศรษฐกิจ อย่านำเส้นเขตแดนมาเป็นเส้นของความขัดแย้ง แต่ให้พัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันเพื่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองประเทศ และสิ่งสำคัญคือต้องทำให้ประเทศที่อยู่ติดกับประเทศไทยเกิดความรู้สึกไว้วางใจ และลดความหวาดระแวง รวมทั้งแบ่งปันผลประโยชน์แบบเท่าเทียมกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสนับสนุนเรื่องการดำเนินการเขตเศรษฐกิจพิเศษว่า แต่ละหน่วยงานจะต้องเตรียมการปฏิบัติทุกส่วนให้พร้อม ทั้งเรื่องแรงงานที่จะต้องเดินทางข้ามมาทำงานเช้าไปเย็นกลับ โดยต้องมีศูนย์ One Stop Service และมีการลงทะเบียนแรงงานว่าเป็นแรงงานที่มีฝีมือ และแรงงานไร้ฝีมือจำนวนเท่าไร เพื่อให้เกิดการจ้างงานและเกิดเป็นเขตเศรษฐกิจที่สามารถเชื่อมโยงได้ทั้งสองประเทศอย่างแท้จริง
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องการช่วยเหลือของภาครัฐที่มีต่อประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยว่า ขณะนี้การดำเนินการทุกอย่างยังมีปัญหาข้อขัดข้องจำนวนมาก จึงได้ให้แนวทางว่า ทำอย่างไรจึงจะสามารถจัดกลุ่มประชาชนตามรายได้ สาขาอาชีพ โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยได้ โดยจะให้มีการจัดทำการแสดงบัญชีภาษีบุคคลธรรมดา เพื่อให้ข้อมูลประชาชนทุกคนได้เข้าไปอยู่ระบบของทางราชการ ซึ่งโอกาสใดก็แล้วแต่ที่นโยบายหรือมีแนวทาง ตลอดจนโครงการในการช่วยเหลือประชาชนจะทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าไปอยู่ในระบบ และสามารถที่จะช่วยเหลือเยียวยาต่อไปได้ อย่างไรก็ตามมีรัฐมนตรีให้ข้อมูลว่าการจัดทำข้อมูลลักษณะแบบนี้เป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากมีประชาชนเป็นจำนวนมากที่ยังขาดความรู้ในเรื่องของการจัดทำเอกสาร ดังนั้นนายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปพิจารณาหาแนวทางเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวร่วมกันต่อไป เพื่อให้มาตรการของรัฐบาลที่มีอยู่และมาตรการในอนาคตสามารถที่จะลงไปสู่ประชาชนได้ครบถ้วนทุกส่วน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องการพัฒนาการศึกษาว่า จะต้องพัฒนาทั้งนักเรียนและครูผู้สอน รวมถึงหาแนวทางพิจารณาที่จะส่งต่อแบบเรียนไปยังรุ่นต่อไปได้ในระยะเวลาที่แบบเรียนยังสามารถที่จะใช้งานได้พอสมควร ขณะเดียวกันขอให้พิจารณาเร่งรัดในเรื่องการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็กที่มีอยู่ทั่วประเทศ ให้สามารถมีระบบการศึกษาที่เท่าเทียมกับโรงเรียนที่อยู่ในส่วนกลาง เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องค่านิยม 12 ประการว่า เป็นสิ่งที่ดีที่แต่ละกระทรวงได้ช่วยกันทำความเข้าใจให้สังคมมีความรู้สึกว่ารัฐบาลไม่ได้ต้องการให้เด็กๆ มาท่องจำในเรื่องค่านิยม 12 ประการ แต่ให้นำหลักการไปปฏิบัติ เพื่อทำใต้ตนเองเป็นคนดี ครอบครัวดี และสังคมดี แต่อย่างไรก็ตามขออย่ามีการใช้งบประมาณเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวมากเกินไป โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสมรายการงบประมาณ ต่าง ๆ ที่จะใช้ในเรื่องของค่านิยมด้วย
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th