นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมตักบาตรพระสงฆ์ 55 รูป และร่วมยินดี ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 54 ปี ก้าวสู่ปีที่ 55 ของสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) พร้อมฉลองรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นปี 2557 ประเภทรางวัลพัฒนาองค์กรดีเด่นในภาพรวม
นายประสิทธิ์ หมีดเส็น รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง กล่าวว่า ตลอด54 ปีที่ผ่านมา สกย. ได้ให้ความสำคัญกับภาคเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของ สกย. มาอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาบุคลากรและมุ่งให้บริการ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการพัฒนางานด้านบริการ และจากการประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ซึ่ง สกย. ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นถึง 2 ปีซ้อน คือ ปี 2556 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประเภทการพัฒนาองค์กรดีเด่นด้านการบริหารจัดการสารสนเทศ และล่าสุด ปี 2557ก็ได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประเภทรางวัลพัฒนาองค์กรดีเด่นในภาพรวม
จากวิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรหลักในการพัฒนาศักยภาพการผลิตและการเพิ่มมูลค่ายางพาราด้วยการให้บริการที่เป็นเลิศ เพื่อเสริมสร้างสังคมชาวสวนยางสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน” สกย. ยังมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าแก้ปัญหายางพาราตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยปีงบประมาณ 2558 - 2564 จะดำเนินโครงการสำคัญ 4 โครงการ คือ 1) โครงการควบคุมปริมาณการผลิต มีเป้าหมายโค่นสวนยางเก่าที่ให้ผลผลิตต่ำ ปีละ 400,000 ไร่ และปลูกแทนด้วยยางพันธุ์ดีประมาณ 300,000ไร่ อีก 100,000 ไร่ จะส่งเสริมปลูกพืชอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น ปาล์มน้ำมัน ไม้ผล เป็นต้น คาดว่าจะช่วยลดผลผลิตยางในตลาดได้ประมาณปีละไม่น้อยกว่า 101,600 ตัน 2) โครงการลดต้นทุนการผลิต สกย.สนับสนุนให้เกษตรกรใช้ยางพันธุ์ดีที่ให้ผลผลิตสูง พันธุ์RRIT 251 และ พันธุ์ RRIT 408 ส่งเสริมให้เกษตรกรผสมปุ๋ยใช้เองตามค่าวิเคราะห์ดินในแต่ละพื้นที่ ควบคู่ไปกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ตลอดจนแนะนำให้เกษตรกรดูแลสวนยางอย่างถูกต้อง รวมทั้งผลักดันการตั้งตลาดยาง ทั้งตลาดน้ำยางสดระดับท้องถิ่น ตลาดประมูลยาง และตลาดยางอีเล็กทรอนิกส์ ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เกษตรกรมีแหล่งจำหน่ายยางที่เป็นธรรมอีกด้วย 3) โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยี เป็นภารกิจหลักของ สกย. เน้นเทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตทุกรูปแบบให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ต้นทุนการผลิตต่ำที่สุด โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับการสร้างรายได้เสริมให้เพิ่มขึ้น และ4)โครงการผลิตเพื่อเสริมรายได้ในสวนยางตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สกย. นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาประยุกต์ใช้ในการทำสวนยาง ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างในสวนยางให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม เช่น การทำยางพาราควบคู่กับการปลูกพืชชนิดต่าง ๆ หรือไม้ผลที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ การทำสวนยางควบคู่กับปศุสัตว์ในสวนยาง เป็นต้น
นอกจากนี้ สกย. ยังได้แก้กฎระเบียบในการให้การสงเคราะห์ โดยอนุญาตให้ลดจำนวนต้นยางที่ปลูกจากเดิมไร่ละ 76 ต้น เหลือไร่ละไม่น้อยกว่า 40 ต้นได้ โดยเกษตรกรยังจะได้รับการสงเคราะห์อัตราเดิม คือ ไร่ละ 16,000 บาท / 7 ปี ทั้งนี้ เพื่อให้สวนยางมีพื้นที่ว่างในการปลูกพืชอื่นๆ หรือ เลี้ยงสัตว์ สนับสนุนการทำสวนยางตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยไม่กระทบต่อการทำสวนยาง ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เสริม สามารถเลี้ยงครอบครัว และยืนอยู่ได้อย่างเข้มแข็งด้วยตัวเอง เพื่อคืนความสุขแก่พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง
กลุ่มโฆษกและวิเคราะห์ข่าว กองเกษตรสารนิเทศ
สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
โทร 02-2810859 แฟกซ์ 02-2822871
moacnews@gmail.com
www.moac.go.th
www.facebook.com/kasetthai
ที่มา: http://www.thaigov.go.th