นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.) ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในมาตรการให้มีทุนในการรักษาเสถียรภาพระบบสหกรณ์ โดยจัดสรรจากกำไรสุทธิประจำปีของสหกรณ์ ตามมาตรา 60 และมาตรา 48แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 ไว้ที่กองทุนสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยมีข้อสังเกต 3 ประเด็น คือ 1.ถ้ามีการรวบรวมเงินสำรองไว้ที่กองทุนฯ จะมีความมั่นใจได้อย่างไรว่า เมื่อถึงเวลาที่สหกรณ์เกิดปัญหาแล้ว กองทุนสามารถนำเงินสำรองนี้ออกมาช่วยเหลือได้ทันที โดยไม่ให้เกิดความเสียหาย 2.เนื่องจากเงินส่วนนี้เป็นเงินของสหกรณ์ ดังนั้นสัดส่วนของผู้บริหารกองทุน ควรมีสัดส่วนของผู้ที่เป็นเจ้าของเงินด้วย 3.ค่าตอบแทนที่จะได้รับ โดยหากมีบุคคลที่สามร่วมบริหารซึ่งอาจเป็นสถาบันการเงิน และมีการฝากเงินจำนวนนี้ในธนาคาร ควรจะได้รับดอกเบี้ยตอบแทน แต่จะมีอัตราเท่าใดนั้น จะเจรจาในลำดับต่อไป
นายปีติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับเงินประกันสภาพคล่อง ถ้าจัดเก็บที่ 1% จะเป็นเงินจำนวน 6,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งกระจายอยู่ตามสหกรณ์ออมทรัพย์ ยังไม่รวมเงินทุนสำรองตามมาตรา 60 ที่สหกรณ์จะต้องสำรองไว้ 10% โดยเงินสำรองทั้งหมดทางสหกรณ์ดำเนินการจัดเก็บเอง ซึ่งแต่ละสหกรณ์ก็มีวิธีการจัดเก็บที่แตกต่างกัน ไม่ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดเก็บที่ชัดเจน ส่วนการพิจารณาว่าจะให้ฝ่ายใดเป็นผู้บริหารกองทุนนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา เมื่อผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เชื่อว่าจะส่งผลให้เกิดสภาพคล่องต่อสหกรณ์ทั้งระบบ”
ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งดำเนินการ เพื่อเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในเดือนมกราคม 2558 ต่อไป
กลุ่มโฆษกและวิเคราะห์ข่าว กองเกษตรสารนิเทศ
สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
โทร 02-2810859 แฟกซ์ 02-2822871
moacnews@gmail.com
www.moac.go.th
www.facebook.com/kasetthai
ที่มา: http://www.thaigov.go.th