ทำเนียบรัฐบาล--22 ส.ค.--บิสนิวส์
วันนี้ เวลา 11.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายจานัค บาฮาร์ดู ซิงห์ (Janak Bahardur Singh) เอกอัครราชทูตเนปาลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสรับตำแหน่งใหม่ และได้มีการสนทนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันในเรื่องต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความยินดีในพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและเนปาลที่ดำเนินมาอย่างแน่นแฟ้นและเป็นเวลายาวนาน ทั้งนี้ ฝ่ายเนปาลเห็นว่า ประเทศทั้งสองต่างมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่อาศัยการผลิตจากภาคอุตสาหกรรมการเกษตรเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดของตน ดังนั้น หากเศรษฐกิจของประเทศไทยมีความเข้มแข็งแล้ว ย่อมจะเป็นผลดีต่อเนปาลด้วย
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับการจัดทำความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างบังคลาเทศ-อินเดีย-ศรีลังกา-ไทย หรือ BIST-EC ตามแนวนโยบายมุ่งตะวันตก (Look-West Policy) ของไทย ซึ่งมีเป้าหมายประการหนึ่งเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกัน ทั้งนี้ ฝ่ายเนปาลได้แสดงความประสงค์ที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้
อนึ่ง ในปัจจุบันประเทศทั้งสองยังอยู่ในระหว่างร่วมกันจัดทำความตกลง 2 ฉบับ คือ ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการเก็บภาษีซ้อน และความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางราชการระหว่างกัน ซึ่งกำลังใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว
ในตอนท้าย เอกอัครราชทูตเนปาล ยังได้แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับโครงการ สร้างโรงพยาบาลแม่และเด็กขนาด 30 เตียง เพื่อเฉลิมฉลองวโรกาสปีกาญจนาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในวโรกาสรัชดาภิเษกของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเนปาลและโครงการจัดสร้างวัดไทยที่ลุมพินีว่า พร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้างแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มได้ประมาณปลายเดือนธันวาคมปีนี้ หรือต้นเดือนมกราคมปีหน้าและมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 2 ปี
ต่อมาในเวลา 11.30 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอกเปโต อิสมัล บิน ฮัสซัน (Pato Ismall Bin Hassan) ผู้บัญชาการทหารบกมาเลเซีย ได้เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี เนื่องใน โอกาสเข้าดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกมาเลเชียคนใหม่และได้สนทนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันในเรื่องต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและมาเลเชีย อาทิ ความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศทั้งสอง ความพยายามในการปักปันเขตแดนร่วมกันระหว่างไทยและมาเลเชีย ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดในขณะนี้ ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่ข้ามเขตแดนจากฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ไปยังมาเลเชีย ทั้งนี้ ฝ่ายมาเลเชียแสดงความพอใจที่รัฐบาลไทยได้ให้ความร่วมมือด้วยดีมาตลอด สำหรับในปัญหาเศรษฐกิจและการเงิน โดยเฉพาะปัญหาความมั่นคงของระบบเงินตรา ซึ่งประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนต่างประสบอยู่ในขณะนี้ นั้น นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ปัญหานี้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น ประเทศสมาชิกอาเซียนควรร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้นำขึ้นหารือกับฝ่ายมาเลเชียต่อไป--จบ--
วันนี้ เวลา 11.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายจานัค บาฮาร์ดู ซิงห์ (Janak Bahardur Singh) เอกอัครราชทูตเนปาลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสรับตำแหน่งใหม่ และได้มีการสนทนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันในเรื่องต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความยินดีในพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและเนปาลที่ดำเนินมาอย่างแน่นแฟ้นและเป็นเวลายาวนาน ทั้งนี้ ฝ่ายเนปาลเห็นว่า ประเทศทั้งสองต่างมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่อาศัยการผลิตจากภาคอุตสาหกรรมการเกษตรเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดของตน ดังนั้น หากเศรษฐกิจของประเทศไทยมีความเข้มแข็งแล้ว ย่อมจะเป็นผลดีต่อเนปาลด้วย
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับการจัดทำความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างบังคลาเทศ-อินเดีย-ศรีลังกา-ไทย หรือ BIST-EC ตามแนวนโยบายมุ่งตะวันตก (Look-West Policy) ของไทย ซึ่งมีเป้าหมายประการหนึ่งเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกัน ทั้งนี้ ฝ่ายเนปาลได้แสดงความประสงค์ที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้
อนึ่ง ในปัจจุบันประเทศทั้งสองยังอยู่ในระหว่างร่วมกันจัดทำความตกลง 2 ฉบับ คือ ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการเก็บภาษีซ้อน และความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางราชการระหว่างกัน ซึ่งกำลังใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว
ในตอนท้าย เอกอัครราชทูตเนปาล ยังได้แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับโครงการ สร้างโรงพยาบาลแม่และเด็กขนาด 30 เตียง เพื่อเฉลิมฉลองวโรกาสปีกาญจนาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในวโรกาสรัชดาภิเษกของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเนปาลและโครงการจัดสร้างวัดไทยที่ลุมพินีว่า พร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้างแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มได้ประมาณปลายเดือนธันวาคมปีนี้ หรือต้นเดือนมกราคมปีหน้าและมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 2 ปี
ต่อมาในเวลา 11.30 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอกเปโต อิสมัล บิน ฮัสซัน (Pato Ismall Bin Hassan) ผู้บัญชาการทหารบกมาเลเซีย ได้เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี เนื่องใน โอกาสเข้าดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกมาเลเชียคนใหม่และได้สนทนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันในเรื่องต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและมาเลเชีย อาทิ ความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศทั้งสอง ความพยายามในการปักปันเขตแดนร่วมกันระหว่างไทยและมาเลเชีย ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดในขณะนี้ ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่ข้ามเขตแดนจากฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ไปยังมาเลเชีย ทั้งนี้ ฝ่ายมาเลเชียแสดงความพอใจที่รัฐบาลไทยได้ให้ความร่วมมือด้วยดีมาตลอด สำหรับในปัญหาเศรษฐกิจและการเงิน โดยเฉพาะปัญหาความมั่นคงของระบบเงินตรา ซึ่งประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนต่างประสบอยู่ในขณะนี้ นั้น นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ปัญหานี้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น ประเทศสมาชิกอาเซียนควรร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้นำขึ้นหารือกับฝ่ายมาเลเชียต่อไป--จบ--