พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือน ด้านความมั่นคง

ข่าวทั่วไป Monday January 5, 2015 15:48 —สำนักโฆษก

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.57 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือนในด้านความมั่นคง ภายใต้การกำกับดูแลของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหน่วยประกอบด้วย กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์อำนวยการบริการจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีผลการดำเนินงาน ดังนี้ การแก้ไขปัญหาความยากจนของพี่น้องประชาชน ส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงพออยู่พอกินตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้บริการจัดหางานทั้งในและต่างประเทศและแนะแนวอาชีพ พัฒนาฝีมือแรงงาน กว่า 152,000 คน มีผู้ได้รับการบรรจุเข้าทำงานแล้วกว่า 86,000 คน จัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย ซึ่งให้บริการแบบครบวงจรเพื่อเตรียมความพร้อมด้านมาตรฐานวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายฝีมือแรงงานรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้า OTOP สร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 9 หมื่นล้านบาท และจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าฮาลาลชายแดนภาคใต้ ?ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากไร้ โดยรัฐบาลได้จัดสรรที่ดินทำกิน แก้ไขปัญหาการไร้ที่ดินทำกินของประชาชน โดยเร่งออกเอกสารสิทธิ์ได้กว่า 27,000 แปลง จัดที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้ประชาชนยากจนกว่า 4,000 แปลง นำที่ดินสาธารณประโยชน์ที่หมดสภาพมาจัดสรร จำนวนกว่า 105,000 แปลง เนื้อที่ 402,000 ไร่ มีประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 91,000 ครัวเรือน และจัดหาที่ดินของรัฐเพื่อนำมาจัดสรรให้กับผู้ยากไร้ตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ โดยจัดเตรียมที่ดินสำหรับจัดสรรไว้แล้วกว่า 58,000 ไร่

สำหรับการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยแล้ง ได้กำหนดเป้าหมายเพื่อลดพื้นที่ภัยแล้งซ้ำซาก บูรณาการแผนปฏิบัติการทุกหน่วยงานเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทั่วถึง ตามโครงการ “คืนความสุขให้คนไทย รวมใจ สู้ภัยแล้ง” โดยจัดชุดปฏิบัติการเชิงรุกเข้าไปดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำให้กับหมู่บ้านพื้นที่เสี่ยงใน 31 จังหวัด ฟื้นฟูแหล่งน้ำแล้วจำนวน 817 แห่ง สามารถเก็บกักน้ำได้ 236 ล้านลูกบาศก์เมตร เจาะบ่อน้ำบาดาลแล้ว 528 แห่ง และแจกจ่ายน้ำไปแล้วกว่า 374,000 ลิตร ?การลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการของรัฐ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการบริการประชาชน โดยจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและอำเภอ ในห้วงที่ผ่านมามีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนกว่า 337,321 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 91 ข้อมูล ณ 15 ธ.ค.57 ของเรื่องราวร้องทุกข์ที่ได้รับ ?การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ได้เร่งแก้ไขปัญหาทั้งในเรื่องของการบังคับใช้แรงงานในเรือประมง การบังคับค้าประเวณี และขอทาน โดยจัดตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการถูกลดระดับในรายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกา และอนุกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการขอทาน เพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ รวมทั้งเชิญผู้ประกอบการเรือประมงและสถานประกอบการมาประชุมขอความร่วมมือไม่ให้มีการค้ามนุษย์และใช้แรงงานเด็ก จัดระเบียบแรงงานและคุ้มครองแรงงานในกิจการประมงทะเล มีผลการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา มีแรงงานต่างด้าวลงทะเบียนทั้งสิ้นกว่า 1,600,000 คน ปัจจุบันดำเนินการพิสูจน์สัญชาติไปแล้ว 57,000 คน และได้ประสานกับประเทศต้นทาง เพื่อเร่งดำเนินการพิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสร็จภายใน 31 มีนาคม 2558

การสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ได้กำหนดมาตรการทั้งเชิงรุกและเชิงรับเพื่อป้องกันอาชญากรรม รวมทั้งดำเนินการจัดระเบียบสังคม โดยบูรณาการจากทุกภาคส่วน มาตรการเชิงรุก มีการตั้งจุดตรวจสถานประกอบการ หอพัก โรงแรม โรงงาน สถานบริการ หรือสถานที่เสี่ยงกว่า 122,000 แห่ง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดและอำเภอ ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนนักท่องเที่ยวและจัดตั้งชุดเฉพาะกิจกองอาสารักษาดินแดนท่องเที่ยว ลาดตระเวน เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง และจัดชุดปฏิบัติงานมวลชนของทหารเข้าช่วยเหลือประชาชน คลอบคลุมพื้นที่เป้าหมายกว่า 300 ชุด มาตรการเชิงรับ ติดตั้งระบบส่องสว่างและกล้องวงจรปิดในพื้นที่เสี่ยง มีผลการดำเนินการติดตั้งไฟฟ้า ส่องสว่าง 180,000 จุด และติดตั้งกล้องวงจรปิดไปแล้วกว่า 30,000 จุด ในพื้นที่ 50 จังหวัด

สำหรับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้จัดสรรงบประมาณลงพื้นที่เป็นไปตามความต้องการของประชาชนมุ่งเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งกับกำลังอาสาสมัครภาคประชาชน และขยายผลการปฏิบัติการ ทุ่งยางแดงโมเดล เพื่อระดมความร่วมมือจากประชาชนให้สามารถสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ?การรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับประชาชน รัฐบาลให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูอนุรักษ์ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าต้นน้ำซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ โดยบูรณาการทุกภาคส่วนในการดูแลและป้องกันการบุกรุกทำลายป่าจัดสามารถดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับคดีป่าไม้ และอุทยานแห่งชาติ กว่า 1,100 คดี คิดเป็นเนื้อที่ป่าไม้ที่ได้กลับคืนมา 26,604 ไร่ และจัดทำโครงการฟื้นฟูป่าต้นน้ำเฉลิมพระเกียรติ มีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2555 – 2559 ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วกว่า 31,000 ไร่ และร่วมกับประเทศ เพื่อนบ้านจัดทำโครงการผืนป่าอาเซียนตลอดแนวชายแดนปัจจุบันดำเนินการไปแล้วกว่า 700 ไร่ ?ดำเนินการจัดระเบียบทางเท้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสะดวกในการสัญจร จำนวน 22 พื้นที่ และแก้ไขปัญหาขยะตาม Road map ของรัฐบาล โดยรวบรวมแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยของทุกจังหวัดมาจัดทำแผนแม่บทแห่งชาติ ?และสำคัญที่สุดคือการปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยรัฐบาลถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งยวดในการปกป้องรักษาพระบรมเดชานุภาพและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยไว้ด้วยความจงรักภักดี โดยได้ร่วมกับทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมและโครงการเฉลิมพระเกียรติตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้งหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบแล้วกว่า 5,400 หมู่บ้าน และจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแล้วกว่า 1,300 แห่ง ขับเคลื่อนโครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวทางพระราชดำริในพื้นที่ขยายผลและพื้นที่ดำเนินการตามแผนพัฒนาชนบทฯ จำนวน 141 แหล่งน้ำ 205 หมู่บ้านใน 56 จังหวัด ?จัดกิจกรรมและโครงการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557 กิจกรรมของทหารรักษาพระองค์ การจัดอุปสมบทหมู่ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พิธีทำบุญตักบาตร และการบำเพ็ญกิจกรรมสาธารณประโยชน์เป็นต้น

สำหรับการปกป้องรักษาพระบรมเดชานุภาพ ได้ดำเนินการต่อการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับสถาบันของชาติ ทั้งทางสื่อและบุคคล รวมทั้งได้ชี้แจงเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเป็นจริง เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดจนพระราชกรณียกิจอันเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งต่อปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ