เรื่องที่2.จากการที่ดำเนินงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมา 12 ปี มีบทเรียนประสบการณ์เกิดขึ้นมากมาย มีการปรับกลไก การเงิน การบริหารจัดการมาโดยตลอด ซึ่งมาตรา 11 ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ระบุให้มีการรับฟังความคิดเห็นทุกปี เพื่อการดำเนินงานในปีต่อไป โดยเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมาให้ความเห็น ซึ่งในปีนี้จะได้มีการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้นกว่าทุกปี โดยจะหารือกับนายแพทย์จรัล ตฤณวุฒิพงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น เปิดโอกาสแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นจริงๆ เอาข้อมูลมาดูกัน จะมีแนวทางปรับให้ดีขึ้นได้อย่างไร ภายใต้แนวคิดของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่แยกผู้ซื้อและผู้ให้บริการ เพื่อเกิดประโยชน์มากที่สุดกับผู้ป่วย เกิดประโยชน์กับหน่วยบริการและคนทำงานมีความสุข และเรื่องที่3.ที่มีข่าวแพร่ออกไปว่าชมรมรพศ./รพท./สสจ.จะไม่ส่งข้อมูลการบริการให้กับ สปสช. ได้ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขช่วยดูแลในเรื่องนี้
“การแก้ไขปัญหาต้องเอาข้อมูลมาดูกันก่อน การไม่เห็นข้อมูลว่าวิธีการคิดแตกต่างกันอย่างไร ค่อยๆ ปรับความคิดเข้าหากัน จะปรับความคิดให้ตรงกันยังไง เพราะบางทีเวลาพูดแล้วอาจเข้าใจไม่ตรงกัน พอเห็นตัวเลข เห็นความแตกต่างก็เอามาวิเคราะห์กัน ถ้าแตกต่างกันแล้วเราจะปรับกันอย่างไร เราจะหาทางออกโดยใช้ข้อมูลเป็นหลัก โดยการพูดจาหารือกัน ไม่ยื้อเวลา จะเร่งรัดให้เสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์ ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต้องรอบคอบ ขอให้ทุกฝ่ายหยุดการเคลื่อนไหว เรากำลังช่วยกันแก้ปัญหา” ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะกล่าว
5 มกราคม 2558
ที่มา: http://www.thaigov.go.th