วันนี้ (10ม.ค.58) เวลา 08.30 น. ณ สนามเสือป่า สำนักพระราชวัง เขตดุสิต กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2558 ภายใต้แนวคิด “Kid’s Funtasia” ซึ่งเปรียบเสมือนการเปิดดินแดนแห่งจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ความสนุกสนาน คุณธรรม และวัฒนธรรม เพื่อให้ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญและความต้องการของเด็กที่จะเป็นอนาคตสำคัญของชาติ และเพื่อกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทดังกล่าว พร้อมทั้งนายกรัฐมนตรีได้พบปะทักทายเด็กและเยาวชน และเยี่ยมชมบูธของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งร่วมกิจกรรมกับเด็กและเยาวชน จัดโดยกระทรวงศึกษาธิการ โดยมี พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานภาครัฐและเอกชน พ่อแม่ผู้ปกครอง เด็กและเยาวชน เข้าร่วมงาน
เมื่อ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางถึงบริเวณการจัดงานวันเด็กฯ ผู้แทนเด็กและเยาวชนได้มอบพวงมาลัยให้กับนายกรัฐมนตรี รวมทั้งได้รับชมการแสดงของเด็กและเยาวชน โดยการขับร้องประสานเสียงเพลง “วันพรุ่งนี้” และเพลง “ค่านิยม 12 ประการ”
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวทักทายเด็กและเยาวชน และพ่อแม่ผู้ปกครองที่มาร่วมงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2558 ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันแห่งความประทับใจและความทรงจำอีกวันหนึ่งของเด็กและเยาวชนทุกคน ทำให้ได้นึกย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปี สมัยที่นายกรัฐมนตรียังเป็นเด็ก และได้มีโอกาสมาร่วมงานวันเด็กแห่งชาติเหมือนกับเด็กและเยาวชนในวันนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นและประทับใจเช่นเดียวกัน ถึงแม้สมัยนั้นจะมีกิจกรรมไม่มากเช่นปัจจุบันแต่ก็รู้สึกดีใจที่จะได้มาพบปะกับเพื่อนและร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ แต่วันนี้บ้านเมืองมีความเปลี่ยนแปลงและเจริญก้าวหน้าด้านการพัฒนาเทคโนโลยีไปมากกว่าสมัยที่นายกรัฐมนตรียังเป็นเด็ก วันเด็กแห่งชาติปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 60 แล้ว สำหรับคำขวัญวันเด็กแห่งชาติทุกปีเชื่อว่ามีความหมายที่ดีทั้งหมด แต่สิ่งสำคัญคือจะสารมารถนำไปสู่การปฏิบัติได้มากน้อยเพียงใด เด็กและเยาวชนจะเข้าใจความหมายได้มากหรือไม่ เพราะฉะนั้น นายกรัฐมนตรี จึงพยายามกำหนดคำขวัญวันเด็กให้สั้นและมีความหมายให้มากที่สุด เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน วันนี้จึงรู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมสัมผัสบรรยากาศอันน่ารัก สนุกสนาน และมีความสุขของเด็กๆ ทุกคน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณที่ทุกคนให้การต้อนรับและชื่นชม ซึ่งความรู้สึกที่ทุกคนมอบให้นี้ทำให้เป็นแรงผลักดันที่จะทำให้มากขึ้น เพื่อให้เด็กและเยาชนมีอนาคตที่ดีมากยิ่งขึ้นภายใต้เวลาของการทำงานที่อยู่อย่างจำกัด โดยรัฐบาลพยายามที่จะทำให้เด็กและเยาวชนไม่ต้องมาเผชิญกับความยากลำบาก ซึ่งรัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชน รวมถึงประชาชนทุกคนที่จะเป็นพลังและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าในอนาคต รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดนโยบายด้านการศึกษาทั้งในระบบและการศึกษาทางเลือก เพื่อสร้างคุณภาพของบุคลากร เด็กและเยาวชน ให้สามารถเรียนรู้ พัฒนาตนได้อย่างเต็มตามศักยภาพ ประกอบอาชีพและดำรงชีวิตได้ โดยมีความรู้และมีทักษะที่เหมาะสม เป็นคนดีมีคุณธรรม ตลอดจนส่งเสริมคุณภาพการเรียนรู้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในเรื่องการศึกษาของประชาชนให้มีความเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งขอให้เด็กและเยาวชน ได้ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนของศาสนา และเสาหลักของประเทศ คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตลอดจนยึดมั่นในความกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดา ครู บาอาจารย์ เป็นต้น
เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญเด็กและเยาวชนทุกคนต้องทำความดี มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรม ไม่ทุจริต และสิ่งใดที่เป็นเรื่องของประเทศชาติบ้านเมืองถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าบ้านเมืองสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพและมีความมั่นคงก็จะทำให้ประเทศชาติและการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเฉพาะความมั่นคงจะส่งผลให้เกิดความมีเสถียรภาพทั้งด้านการเมือง การทหาร การต่างประเทศ และด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการศึกษาว่า ต้องการให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้ศึกษาเล่าเรียนอย่างมีความสุข ซึ่งจะทำให้การศึกษาพัฒนาไปสู่อนาคตได้ จึงขอให้ทุกคนได้ร่วมมือกันทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำในเรื่องการศึกษาของประชาชนให้มีความเท่าเทียมโดยน้อมนำและยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางปฏิบัติให้เหมาะสมสอดคล้องตามฐานะของแต่ละบุคคล เพื่อให้ทุกคนมีภูมคุ้มกันที่ดีมีการใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่าเกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินชีวิต ขณะเดียวกันครูผู้สอนและให้ความรู้เด็กและเยาวชนก็มีความสำคัญ เพราะเด็กและครูจะคู่กัน ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต ถ้าเด็กและเยาวชนดี ครูดี อนาคตก็จะดีตามไปด้วย แต่ถ้าเด็กและเยาวชนไม่ดี และครูไม่ดี อนาคตก็จะไม่ดี เพราะฉะนั้นถ้าประเทศชาติบ้านเมืองมีการพัฒนาทั้งเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ ผู้นำ นักการเมือง พลเรือน ตำรวจ ทหาร ในเรื่องของการมีคุณธรรม จริยธรรม มีความซื่อสัตย์ สุจริต ความขัดแย้งก็จะไม่เกิดขึ้น สังคมก็จะมีความสบงสุข และสามารถที่จะแก้ปัญหาทุกอย่างได้ เพราะทุกคนมีความตระหนักรู้คิดวิเคราะห์ได้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี ทำให้สังคมอยู่ร่วมกันได้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันเด็กแห่งชาติปีนี้ ขอให้เด็กและเยาวชนทุกได้เริ่มให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะทำสิ่งดี ๆ อะไรให้กับตนเองและครอบครัว เช่น ไม่โกหก ไม่นอนตื่นสาย ไม่ขี้เกียจไปโรงเรียน รักพ่อแม่มากขึ้น ไม่เล่นเกมส์ตอนดึก ทำการบ้านก่อนเล่นเกมส์และดูโทรทัศน์ เป็นต้น ซึ่งเด็กและเยาวชนทุกคนก็ได้ให้คำมั่นสัญญากับนายกรัฐมนตรีด้วย
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ต้องการให้เด็กและเยาวชนทุกคนเป็นเด็กที่มีอนาคต มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด เพื่อเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีอนาคตสดใสเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติของเราให้เจริญก้าวหน้าต่อไป และขออาราธนาแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล รวมทั้งพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดดลบันดาลประทานพรให้กับผู้ปกครอง เด็กและเยาวชนของชาติ และทุกคนที่มาร่วมงานจงประสบแต่ความสุขความเจริญ คิดและหวังสิ่งใดขอให้สมหวังทุกประการ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ทำพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2558 รวมทั้งได้เดินทักทายเด็กและเยาวชนอย่างเป็นกันเอง และเยี่ยมชมบูธของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เข้าร่วมจัดกิจกรรมงานวันเด็กฯ ก่อนร่วมกิจกรรมกับเด็กและเยาวชนและให้โอวาทแก่เยาวชนสัมพันธ์ จัดโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th