วันนี้ เวลา 11.00 น. นายมูฮัมมัด อาลี อะห์เมด อมราน อัล ชัมซี เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
สรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสองอย่างแข็งขันตลอดการดำรงตำแหน่งในประเทศไทย ในช่วง 5 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา และขอบคุณรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่เข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยมาตลอด และขอชื่มชมการพัฒนาประเทศและการเติบโตของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นอกจากนี้ ทราบว่า รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ได้ให้การสนับสนุนชุมชนไทยมุสลิมเป็นอย่างดี และรู้สึกประทับใจที่เอกอัครราชทูตฯ มีโครงการสำหรับชาวไทยมุสลิมหลายโครงการ เช่น การบริจาคเงินสร้างมัสยิดและโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม การให้เงินสนับสนุนงบประมาณเลี้ยงอาหารละศีลอดผู้ต้องขังมุสลิมในเรือนจำทั่วประเทศไทยในช่วงเดือนรอมฎอน และการให้เงินช่วยเหลือชาวไทยมุสลิมที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ เป็นต้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอสนับสนุนและชื่มชม ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเองเคยตรัสไว้ว่า ทุกศาสนาในประเทศไทยต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดและเท่าเทียมกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้น้อมนำมาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนใต้ด้วยหลักสันติวิธีและความเท่าเทียม
ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ทั้งสองประเทศมีความเป็นมิตรกันอย่างแท้จริง กว่า40 ปี โดยนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมที่เอกอัครราชทูตฯ ได้ผลักดันการขยายความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในด้านต่างๆ ทั้งด้านการค้าการลงทุน การเกษตร อาหารและพลังงาน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นศูนย์กลางในการกระจายผลผลิตทางการเกษตรกับแก่ไทย โดยเฉพาะข้าวไทยซึ่งมีคุณภาพดี นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง การเตรียมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่ทำให้มีการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ทั้งทางบก เรือ อากาศ ทำให้การท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้ามีความสะดวกมากขึ้น ตลอดจน การพัฒนาเขตเศรษฐกิจชายแดน ซึ่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สามารถมาร่วมลงทุนกับไทยได้
ด้านการท่องเที่ยว ไทยยินดีให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และจะอำนวยความสะดวกให้การเยือนไทยราบรื่นมากที่สุด ซึ่งเอกอัครราชทูตฯกล่าวว่า มีนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เดินทางมาเยือนไทยเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นอันดับสองในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะการเดินทางมารับการรักษาพยาบาลที่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีจำนวนถึง 155,000 คน
ในตอนท้าย ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับระหว่างกันมากขึ้น เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในทุกมิติ
กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th