8.30 น. ที่สนามเสือป่า :
พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร และพลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ พลเอกสุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พันเอก ดำรงค์ สิมะขจรบุญ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และผู้บริหาร ศธ. ร่วมพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2558 ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิด
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ในนามของ ศธ. คณะกรรมการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2558 พร้อมทั้งเด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศ ขอกราบขอบพระคุณนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2558 ในครั้งนี้
การจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ 58โดย ศธ.ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับทุกส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ในส่วนกลางมีการจัดงานและพิธีเปิดงานที่สนามเสือป่า สำนักพระราชวัง
โดยนำคำขวัญของนายกรัฐมนตรีที่ว่า “ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต” มาเป็นหลักและแนวทางในการจัดกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้อย่างสร้างสรรค์และสนุกสนาน
ด้วยการจัดให้มีลานเครื่องเล่น กิจกรรม ความบันเทิง การแสดง เกม และการมอบหนังสือ ของขวัญ ของที่ระลึกมากมาย เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับการปลูกฝังให้เป็นเด็กและเยาวชนที่ดี มีวินัย และเป็นกำลังสำคัญในการสร้างชาติไทยให้มั่นคงสืบไป
การจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2558 ในครั้งนี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อและความอนุเคราะห์อย่างดียิ่งจากสำนักพระราชวังที่กรุณาอนุญาตให้ใช้สนามเสือป่าเป็นสถานที่จัดงาน รวมถึงส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันแห่งความทรงจำและความประทับใจ เมื่อมองย้อนกลับไปจะเห็นว่าหลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งความเจริญของบ้านเมือง การพัฒนาเทคโนโลยี การมอบคำขวัญในแต่ละปีความหมายทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับเด็กและเยาวชนว่าจะมีความเข้าใจและนำไปสู่การปฏิบัติได้มากน้อยแค่ไหน จึงได้กำหนดคำขวัญวันเด็กให้สั้นที่สุด แต่มีความหมายมากที่สุด เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืนให้ได้ อีกทั้งมีความดีใจที่ประชาชนให้การต้อนรับและชื่นชม ทำให้คิดได้ว่าจะต้องทำอะไรให้มากขึ้น ทำให้เด็กและเยาวชนมีอนาคตที่ดีขึ้น แม้ว่าจะมีเวลาค่อนข้างจำกัด แต่จะพยายามทำให้ลูกหลานไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก
ด้วยรัฐบาลตระหนักดีถึงความสำคัญของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศให้เจริญก้าวหน้าในอนาคตการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบจะสร้างคุณภาพเด็กและเยาวชนให้สามารถเรียนรู้ พัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ โดยกำหนดให้มีการพัฒนาการศึกษาตลอดทุกช่วงวัย ให้ทุกคนเรียนรู้ให้ทันเหตุการณ์ และสถานการณ์โลก
เนื่องจากโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถยึดมั่นไว้ได้ ก็คือการยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนของศาสนา และเสาหลักของประเทศไทย ได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดจนความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่ ครูบาอาจารย์
เด็กและเยาวชนทุกคนต้องทำความดี มีความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรม ไม่ทุจริตหรือเห็นชอบกับการทุจริต หากประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย ก็จะเกิดความมั่นคง และความมั่นคงเป็นบ่อเกิดของความมีเสถียรภาพ ทั้งทางการเมือง การทหาร การต่างประเทศ และเศรษฐกิจ ต้องแปลงวิกฤติให้เป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตนเอง โดยจะมีรัฐบาลเข้ามาช่วยดูแล
นอกจากนี้ ต้องการให้เด็กและเยาวชนศึกษาเล่าเรียนอย่างมีความสุข และให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ รวมทั้งผู้ที่อยู่ในระบบการศึกษา เพื่อช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำในเรื่องการศึกษาของประชาชนให้มีความเท่าเทียมกันด้วยความพอเพียงตามฐานะของแต่ละครอบครัว แต่ก็ต้องได้มาตรฐานด้วย หากทุกฝ่ายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเด็กและเยาวชน ประชาชน ข้าราชการ และผู้นำประเทศ มีการพัฒนาให้มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต ความขัดแย้งก็จะไม่เกิด สังคมก็จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะคุณธรรม จริยธรรมสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้
เด็กและเยาวชนจะต้องเริ่มสัญญากับตัวเองในการทำสิ่งทีดีให้กับตนเองและครอบครัว เช่น การไม่โกหก ไม่นอนตื่นสาย ไม่ขี้เกียจไปโรงเรียน รักพ่อแม่ให้มากขึ้น ไม่เล่นเกมตอนกลางคืน และทำการบ้านก่อนเล่นเกมหรือดูโทรทัศน์ เป็นต้น เด็กและเยาวชนจะต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดีในการใช้จ่ายและวางแผนการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด และมีอนาคตที่สดใส
ในการนี้ ขอขอบคุณองค์กรและหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานครั้งนี้ ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เดชะพระบารมีอันแผ่ไพศาลขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้กับผู้ปกครอง เด็กและเยาวชน และทุกคนที่มาร่วมงานจงประสบแต่ความสุขความเจริญ คิดและหวังสิ่งใดขอให้สมความปรารถนาทุกประการ
13.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ :
รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยพลเอกสุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมรับฟังการนำเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการศึกษาจากสภานักเรียน ประจำปี 2558 ที่ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ
นายณรงค์ฤทธิ์ แซ่ขอ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสตรีระนอง จังหวัดระนอง ประธานสภานักเรียน ได้กล่าวขอบคุณ รมว.ศึกษาธิการ ที่ได้อนุญาตให้เข้าพบและนำเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการศึกษาใน 4 ประเด็น ดังนี้
การจัดการเรียนรู้หน้าที่พลเมืองและประวัติศาสตร์ ในวิชาหน้าที่พลเมือง ควรเน้นและเพิ่มชั่วโมงการเรียนการสอนให้มากขึ้น เพิ่มและสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับภาวะผู้นำ ฝึกให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริง รวมทั้งจัดครูที่มีความรู้โดยตรงเป็นผู้สอนในวิชาประวัติศาสตร์ ควรเพิ่มชั่วโมงการเรียนการสอนและหน่วยกิตให้มากขึ้น เพื่อให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ โดยการเรียนรู้นอกห้องเรียน ส่งเสริมให้จัดกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การแสดงละครประวัติศาสตร์ เป็นต้น
รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และการวัดประเมินผล ต้องการให้ครูมีวิธีสอนที่หลากหลาย จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เช่น การพานักเรียนออกนอกสถานที่ ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ มีการปฏิบัติจริงทั้งด้านวิชาการและทักษะชีวิต โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ลดการบ้านให้น้อยลง เพื่อให้นักเรียนมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวมากขึ้น และฝึกให้นักเรียนมีทักษะกระบวนการคิด พร้อมกับการสอนเสริมทางด้านวิชาการเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ
การส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้อ่านออก เขียนได้ ควรจัดกิจกรรมสอนซ่อมเสริมให้นักเรียนที่อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ หรืออ่านเขียนไม่คล่องอย่างจริงจังและทั่วถึง ควรแจกหนังสือเรียน สื่อและอุปกรณ์การเรียนรู้ให้ทันเปิดภาคเรียน เพื่อให้ทันต่อการใช้ประกอบการเรียน และควรให้มีครูที่มีความรู้ความสามารถโดยตรงมาสอนเด็กพิเศษ เนื่องจากเด็กที่อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ส่วนหนึ่งเป็นเด็กพิเศษ
การพัฒนาทักษะชีวิต โลกปัจจุบันมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูง ทำให้เด็กและเยาวชนเสพติดเทคโนโลยี และส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทักษะชีวิต โดยเฉพาะพ่อแม่ในยุคปัจจุบัน เป็น “พ่อแม่รังแกฉัน” คือ สรรหาความสะดวกสบายให้กับลูก โดยไม่พัฒนาทักษะชีวิต จึงต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายหันมาให้ความสำคัญและพัฒนาทักษะชีวิตให้กับเด็กและเยาวชนอย่างจริงจัง ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน
รมว.ศึกษาธิการ ได้กล่าวให้โอวาทแก่สภานักเรียน ประจำปี 2558 ว่า ขอแสดงความชื่นชม สพฐ. ที่ได้จัดกิจกรรมที่ดีให้กับนักเรียน ถึงแม้ว่าคณะสภานักเรียนเป็นเด็ก แต่กลับมีความคิดความอ่าน เห็นถึงปัญหาและอุปสรรคจากการเรียนการสอนในโรงเรียน และนำมาเสนอให้ได้รับทราบ
หลายข้อเสนอเป็นเรื่องที่จะต้องนำไปคิดต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครูอาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงการศึกษา หรือแม้กระทั่งตนเองในฐานะ รมว.ศึกษาธิการ ก็ต้องนำไปคิดและปรับให้ตรงกับความต้องการ เพราะเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เองก็เห็นสอดคล้องด้วย เช่น การนำนักเรียนออกนอกห้องเรียน ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนมากขึ้น การฝึกให้มีการปฏิบัติจริง การลดจำนวนการบ้าน การฝึกทักษะทางความคิด การฝึกความเป็นผู้นำ การจัดการเรียนรู้วิชาหน้าที่พลเมืองและประวัติศาสตร์ และการพัฒนาทักษะชีวิต เป็นต้น
ในช่วงที่ผ่านมา คณะสภานักเรียนฯ มีการจัดประชุมสัมมนา มีกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งนักเรียนได้รับการปลูกฝังเรื่องประชาธิปไตยทั้งในระหว่างการจัดกิจกรรมและในห้องเรียน ต้องเข้าใจให้ถ่องแท้ว่าประชาธิปไตยเป็นอย่างไร ไม่ใช่ว่ามีประชาธิปไตยแล้วจะทำอะไรก็ได้ การมีสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยจะถูกจำกัดโดยการไม่ล่วงล้ำสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นที่อยู่ร่วมกันในสังคม ประชาธิปไตยไม่ใช่เป็นเรื่องของเสียงส่วนใหญ่เท่านั้น เพราะเสียงส่วนใหญ่อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป ถึงแม้ระบอบประชาธิปไตยจะให้ความสำคัญกับเสียงส่วนใหญ่ แต่ก็ต้องรับฟังเสียงส่วนน้อยด้วย
การที่คณะสภานักเรียนฯ ได้ร่วมกิจกรรมกันมาหลายวัน เชื่อว่าการที่ได้มาอยู่ร่วมกันในช่วงเวลาไม่นาน แม้ว่าจะมาจากต่างภูมิภาค แต่เมื่อมารวมกันแล้ว เป็นคนไทยด้วยกัน อยู่ในวัยเดียวกัน มีความรักใคร่กลมเกลียว เมื่อแยกจากกันไปแล้ว คาดว่าความรัก ความสามัคคีของทุกคนที่ได้มีโอกาสมารู้จักกันในช่วงเวลานี้ ก็จะมีความผูกพันกันอยู่ ประเทศไทยต้องการความรัก ความสามัคคี จึงขอให้ทุกคนจำเอาไปปฏิบัติและนำไปใช้ตลอดไป ไม่ว่าแต่ละคนจะมีความคิดเห็นแตกต่างกัน แต่ขอให้ความรัก ความสามัคคี คงอยู่ตลอดไป
สำหรับข้อเสนอทั้งหมดที่ได้รับมา ศธ.จะรับเอาไปดำเนินการต่อ เพราะทุกข้อคิดเห็นเป็นเรื่องที่ตรงใจและถูกต้อง หากต้องการจะปลูกฝังให้ลูกหลานเป็นเยาวชนและพลเมืองที่ดีต่อไปในอนาคต ข้อคิดเห็นเหล่านี้มีความจำเป็นที่จะต้องปรับและทำให้ได้ ขณะนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการปฏิรูปการศึกษา จึงจะพยายามทำในส่วนนี้ให้ดีที่สุด จะปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ เพื่อให้ผลประโยชน์เกิดกับเด็กและเยาวชนทุกคน
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการสภานักเรียนอีกครั้ง ขอบคุณครูอาจารย์ที่พานักเรียนมาร่วมกิจกรรม ขอบคุณ สพฐ.ที่เป็นเจ้าภาพจัดโครงการในครั้งนี้ ขอชื่นชมนักเรียนทุกคนที่มาร่วมโครงการฯ และขออวยพรให้การดำเนินโครงการในปีนี้และปีต่อๆ ไป ประสบความสำเร็จ ขอให้นักเรียนทุกคนมีความสุข สุขภาพกายและใจแข็งแรง เข้มแข็ง พร้อมที่จะเป็นนักเรียนที่ดีของครู เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ และเติบโตเป็นอนาคตที่ดีของประเทศชาติสืบต่อไป
โอกาสนี้ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบอุปกรณ์กีฬาให้กับตัวแทนโรงเรียนที่เข้าร่วมประชุม จำนวน 53 โรงเรียน.
ภาพ สถาพร ถาวรสุข
กุณฑิกา พัชรชานนท์
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
10/1/2558
ที่มา: http://www.thaigov.go.th