วันนี้ (พฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2558) เวลา 09.00 น. ดร.พรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นำรัฐมนตรีด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศประเทศสมาชิกอาเซียน สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น ผู้แทนเลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ผู้แทนสำนักเลขาธิการอาเซียน เข้าพบหารือกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 14 ณ ห้อง Corundum ชั้น 3 โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 14 ว่า เป็นโอกาสดีที่ผู้เข้าร่วมจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูล และแนวทางการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระหว่างกัน และเชื่อว่าจะได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางในการใช้ไอซีทีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ต่อสังคม และรวมไปถึงประโยชน์ต่อภูมิภาค เพื่อเป็นการลดช่องว่างระหว่างกันในทุกมิติ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า การประชุมครั้งนี้จะนำไปสู่การขยายความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในเรื่องต่างๆ ที่เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความพร้อมและศักยภาพทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค และรวมถึงการใช้ไอซีทีเพื่อส่งเสริมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่กำลังจะมาถึง
ปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ หัวข้อการประชุมในปีนี้ คือ Transforming ASEAN : Moving Towards Smart Communities (การปรับเปลี่ยนอาเซียนเพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนาประชาคมในทุกๆระดับของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ฉลาดโดยใช้เทคโนโลยีและการสื่อสาร) ส่วนสำคัญคือ การจัดทำแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมาก รัฐบาลไทยยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในขณะนี้รัฐบาลกำลังผลักดันการกระตุ้นให้เกิดการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจเพื่อต่อยอด โดยจะผลักดันผ่านนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (digital economy) มุ่งใช้ไอซีทีเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนในทุกมิติ เพื่อให้การพัฒนาทางเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมและการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารว่า ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถือเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคง ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค ซึ่งทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านนี้การส่งเสริมให้เกิดการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดกับทุกภาคส่วนและในทุกมิติเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะประชาชนในภาคเกษตรกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น รวมถึงด้านข้อมูลการตลาด ในการเพิ่มผลผลิตซึ่งหากประเทศสมาชิกอาเซียนสามารถสามารถตกลงกันในเรื่องของราคาจำทำให้อาเซียนมีภาคการเกษตรที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอให้อาเซียนและประเทศคู่เจรจาช่วยดูแลเรื่องการค้าชายแดน รวมถึงมุ่งเน้นเพื่อการเป็นแหล่งอาหารและแหล่งพลังงานของโลก สำหรับประเทศไทยและรัฐบาลไทยพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่จะช่วยให้การบูรณาการทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่างประเทศสมาชิกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
อนึ่ง ผู้เข้าร่วมหารือ ประกอบด้วย Dr. Yaacob Ibrahim รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารสิงคโปร์ Dato Abdullah Bakar รัฐมนตรีเทคโนโลยีและสารสนเทศ บรูไนดารุสซาลาม นาย Nguyen Thanh Hung รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารเวียดนาม
นาย RUDIANTARA รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ อินโดนีเซีย นาย Prak Sokhonn รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศกัมพูชา Dato’ Sri Ahmad Shabery Cheek รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารมาเลเซีย นาย Hiem PHOMMACHANH รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร สปป.ลาว นาย Myat Hein รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารเมียนมาร์ Hon. Mario G. Montejo เลขาธิการ Department of Science and Technology แห่งฟิลิปปินส์ นาย เล เลือง มินห์ ผู้แทนสำนักเลขาธิการอาเซียน
นาย Shang Bin ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและอุตสาหกรรม (MIIT) สาธารณรัฐประชาชนจีน นาย Yasuo Sakamot ที่ปรึกษารัฐมนตรีฝ่ายประสานนโยบายญี่ปุ่น นาย Shang Bin รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ ไอซีที และการวางแผนในอนาคต (Minister of Science, ICT and Future Planning) สาธารณรัฐเกาหลีใต้ และ นาย Fran?ois Rancy ผู้แทนสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ( International Telecommunication Union )
ที่มา: http://www.thaigov.go.th