ทั้งนี้ หากการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรีอาเซียนและฮ่องกงสามารถบรรลุข้อตกลง จะส่งผลให้ไทยและอาเซียนได้จากการที่ฮ่องกงจะเป็นประตูการค้าอีกแห่งหนึ่งในการส่งออกไปยังตลาดจีนและภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก เนื่องจากฮ่องกงเป็นเขตปลอดภาษี (Free Port) ขณะที่ฮ่องกงจะสามารถขยายการค้าและการลงทุนสู่อาเซียนซึ่งเป็นตลาดที่มีประชากรประมาณ 600 ล้านคน โดยฮ่องกงมีมีศักยภาพและสนใจลงทุนในภาคบริการ
ในการเดินทางมาครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มีโอกาสพบปะกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการนำเข้าข้าวของฮ่องกง พร้อมกับนำคณะผู้ส่งออกข้าวไทยจำนวน 26 รายมาร่วมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดข้าวไทยในฮ่องกง โดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสมาคมผู้นำเข้าข้าวของฮ่องกงได้ร่วมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent: LOI) เพื่อร่วมมือส่งเสริมตลาดข้าวไทย และได้มีการลงนามใน MOU ซื้อข้าวไทยระหว่างผู้ส่งออกข้าวไทยและผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง รวมปริมาณกว่าหนึ่งแสนตัน
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มอบรางวัล Best Friend of Thai Rice Award ให้กับผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของฮ่องกงจำนวน 7 บริษัท เพื่อเป็นการขอบคุณที่ได้นำเข้าข้าวจากประเทศไทยมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ย้ำว่ารัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญของตลาดข้าวฮ่องกง และจะรักษาคุณภาพข้าวให้เป็นไปตามมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในฮ่องกง
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนดกลยุทธ์และแนวทางการขยายตลาดข้าวไทยในฮ่องกงโดยจะพิจารณาเพิ่มความหลากหลายในประเภทและชนิดของข้าวเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีลักษณะเฉพาะตลาดให้มากขึ้น อาทิ ข้าวหอมมะลิไทย จะเน้นรักษา/ขยายตลาด ในผู้บริโภคครัวเรือนผ่านช่องทาง Modern Trade ส่วนข้าวหอมปทุมจะเน้นจัดกิจกรรมทางการตลาดในส่วนร้านอาหารโรงแรม และเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่สำหรับข้าวออแกนิกส์
ที่มา: http://www.thaigov.go.th