พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เร่งเดินหน้าทำงานเชิงรุกสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมุ่งเน้นเสริมสร้างศักยภาพในด้านต่างๆ ให้กับผู้ผลิตสินค้าเหล็กและสินค้าต่อเนื่อง โดยกระทรวงฯ ได้จัดประชุมหารือเพื่อหาแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กอย่างยั่งยืนขึ้น เมื่อวันจันทร์ที่ 26 มกราคม 2558 และได้เชิญผู้แทนหน่วยงานรัฐและเอกชนกว่า 30 แห่ง เข้าร่วมการประชุมฯ
อุตสาหกรรมเหล็กเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย และท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันในตลาดโลกที่รุนแรง ผู้ผลิตเหล็กของไทยหลายรายกำลังประสบกับปัญหาต่างๆ อาทิ ปัญหาต้นทุนการผลิต ปัญหาการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากสินค้านำเข้า ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและครอบคลุมทั้งระบบ ผู้ผลิตเหล็กทั้งขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นปลาย รวมถึงผู้ผลิตในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ต้องจับมือเป็นพันธมิตรและเร่งเดินหน้าปรับตัว พัฒนา และเสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของตนเอง โดยพึ่งพิงความช่วยเหลือจากภาครัฐเท่าที่จำเป็น อย่างไรก็ดี กรณีที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม กระทรวงพาณิชย์ได้ตระหนักถึงปัญหาและเร่งเดินหน้าผนึกกำลังกับหน่วยงานรัฐและเอกชนต่างๆ อย่างเข้มแข็ง เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าเหล็กนอกจากจะเป็นวัตถุดิบในอุตสาหรรมต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นสินค้าส่งออกสำคัญคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 5 พันล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ดังนั้น หากสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กให้มีความเข้มแข็งยั่งยืนได้ ก็จะเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าและก้าวขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มอาเซียนได้ในอนาคต
ประชุมครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี และนับเป็นก้าวแรกของเปิดโอกาสให้หน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเหล็กทั้งระบบและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ได้หันหน้าพูดคุยกัน เพื่อชี้แจงปัญหาในเชิงลึก ข้อเรียกร้อง และทางออกของปัญหา ที่ทุกภาคส่วนสามารถยอมรับได้ และกำหนดเป็นแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าเป็นคนกลางในการขับเคลื่อนความร่วมมือหน่วยงานหลักด้านเศรษฐกิจ และภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจมหภาคของประเทศต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th