วันนี้ (3 ก.พ.58) เวลา 13.00 น. ณ บริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ว่า ขณะนี้จากรายงานการจ่ายเงินช่วยเหลือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้วมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยังเหลืออีกเพียงเล็กน้อยที่ข้อมูลยังไม่ถูกต้อง
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าการจ่ายเงินนั้น ต้องมีทะเบียนเกษตรกร ซึ่งอาจจะยังไม่มีความทันสมัยเพียงพอ แต่ถึงเวลาก็มาขอรับเงินช่วยเหลือ โดยสิ่งที่รัฐบาลต้องดูแล อีกทั้งยังมีเรื่องของผู้ที่อยู่ในพื้นที่ ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นความบกพร่องของรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ไม่ต้องการจะโทษใคร เพราะมีการสนับสนุนการปลูกยาง และได้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่ป่า กลุ่มดังกล่าวก็ได้มาขอเงินช่วยเหลือด้วย รัฐบาลก็ช่วยเหลือเพราะเห็นว่าเป็นคนจน และให้มาทุกครั้ง อย่างไรก็ตามกำลังจะจัดระเบียบใหม่ ต้องมีการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นระบบ และจะต้องหาทางแก้ไขเกษตรกรที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ หรือผู้บุกรุก เพราะถือว่าผิด แต่ถ้าหากอยู่มาตั้งแต่ดั้งเดิม ก็อาจจะมีมาตรการผ่อนปรนให้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ผมได้ถามไปแล้วว่าให้เงินช่วยเหลือไปแล้วหนึ่งพันบาท เจ้าของสวนยางบอกว่าได้ แต่คนกรีดยางไม่ได้ เพราะคนกรีดยางจ้างมา ต้องเข้าใจว่าเรื่องของยางพารา ไม่ใช่แค่คนปลูก เพราะคนกรีดยางยังต้องจ้างอีก สองฝ่ายคนละ 50 เปอร์เซ็นต์ ช่วยไป 1 พันบาท คนกรีดยางไม่ได้ วันนี้เจ้าของสวนยางบอกต้องการให้คนกรีดยางด้วย ปัญหามีความซับซ้อน จึงจำเป็นต้องแก้ไขโดยจัดระเบียบใหม่ เพราะเป็นผลให้ต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งจากการลงพื้นที่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมาเมื่อวานนี้ (2 ก.พ.58) ผมได้นั่งคิดว่าเกษตรกรทุกกลุ่มทั้งยาง ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง จะจัดระบบสหกรณ์มาใช้ได้หรือไม่ โดยการขึ้นทะเบียนทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาเมื่อไปยุ่งกับกลไกมาก ๆ ทำให้เกิดการบิดเบือนราคา และระบบจะเสียไปหมด จะแก้กลับมาก็ต้องใช้เวลา แต่หากเราส่งเสริมในระบบสหกรณ์ได้ก็จะสร้างความเข้มแข็ง หากสหกรณ์ต้องการเงินทุนเราก็พร้อมสนับสนุน”
นายกรัฐมนตรีกล่าวฝากไปยังเกษตรกรชาวสวนยางว่า รัฐบาลพยายามเร่งรัดการช่วยเหลือทั้งสนับสนุนการใช้ยางภายในประเทศ โดยจะมีการหารือให้เร็วที่สุดภายในสองสัปดาห์ เพื่อที่จะดูว่าสามารถใช้ยางภายในประเทศได้มากน้อยเพียงใด เพื่อเตรียมรับฤดูกรีดยางครั้งหน้าให้ราคาดีขึ้น แต่วันนี้ต้องดูที่การลดต้นทุน เมื่อขายได้กิโลกรัมละ 60 บาท ก็แบ่งกับคนกรีดยาง 50 เปอร์เซ็นต์
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า หลังจากลงพื้นที่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการในเรื่องของการจัดตลาดกลางพืชผล โดยการเปิดตลาดแล้วเอาข้าวมาแข่งกันซื้อโดยประชาชน ซึ่งราคาจะสูงกว่าท้องตลาด 800 บาท ส่งผลทำให้ประชาชนดีใจ วันนี้เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรใด้เรียนรู้เรื่องการค้าการลงทุน ซึ่งการเปิดตลาดแบบนี้ ถือเป็นการขายตรงกับผู้บริโภค ถ้าไม่อย่างนั้นพ่อค้าคนกลางจะเอากำไรไปหมด
ที่มา: http://www.thaigov.go.th