พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกจับร้านนวดสปาที่มีการแอบแฝงค้าประเวณี โดยให้เด็กชาย อายุต่ำกว่า ๑๘ ปี มาบริการทางเพศแก่ลูกค้าชาย ที่เขตธนบุรี กรุงเทพฯ และกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมหญิงสาวชาวลาวอายุระหว่าง ๑๗-๒๐ ปี ที่ลักลอบขายบริการทางเพศ ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ติดกับรั้วที่ว่าการอำเภอวังสามหมอ และสภ.วังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี รวมทั้งกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกจับร้านคาราโอเกะที่เปิดขายอาหารบังหน้า แต่มีการลักลอบค้าประเวณี โดยพบหญิงสาวบริการสัญชาติลาว ๑๓ คน กัมพูชา ๓ คน เมียนมาร์ ๑ คน และสาวไทย ๑ คน รวมทั้งหมด ๑๘ คน ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งทั้งสามกรณี ตนได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.)ในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และติดตามความคืบหน้าว่ามีส่วนเกี่ยวข้องการค้ามนุษย์หรือไม่ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด และส่งตัวหญิงสาวต่างด้าวที่ถูกจับเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือฯ ก่อนส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีเด็กสาวอายุ ๑๗ ปี ที่ต้องหาเช้ากินค่ำ หลังจากพ่อเสียชีวิต และทิ้งภาระอันหนักอึ้งให้รับผิดชอบ บางวันต้องหยุดเรียน มารับจ้างทำงานเพื่อแลกเงินมาซื้ออาหารประทังชีวิตและซื้อยามารักษาแม่อายุ ๓๗ ปี ที่นอนป่วยเป็นโรคไตระยะสุดท้ายมานานกว่า ๓ ปี ที่จังหวัดนครพนม ตนได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.นครพนม) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กสาวในระยะยาว และช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลแม่ของเด็กด้วย สำหรับกรณีเด็กหญิงวัย ๑๒ ปี ถูกพ่อเลี้ยงอายุ ๔๑ ปี ที่เป็นแรงงานข้ามชาติข่มขืนที่จังหวัดราชบุรี กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้รับเข้าไว้ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดราชบุรี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเยียวยาสภาพจิตใจเด็กอย่างเร่งด่วน และครอบครัวอย่างใกล้ชิด
“ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และองค์กรเอกชนต่างๆ ปฏิบัติการลงพื้นที่จัดระเบียบคนขอทานทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ ๒๖ - ๓๐ ม.ค. ๒๕๕๘ นั้น ในวันที่สี่ของปฏิบัติการ (๒๙ ม.ค. ๕๘) พบว่า ในส่วนกลาง (กรุงเทพมหานคร) และส่วนภูมิภาค มีคนขอทานเข้าสู่กระบวนการจัดระเบียบ รวมจำนวนทั้งสิ้น ๒๗๙ คน เป็นขอทานคนไทย จำนวน ๑๘๔ คน ขอทานต่างด้าว จำนวน ๙๕ คน โดยสรุปยอดรวมทั้งสี่วันของการปฏิบัติการจัดระเบียบคนขอทานทั่วประเทศ มีขอทานเข้าสู่กระบวนการจัดระเบียบ รวมจำนวนทั้งสิ้น ๖๘๓ คน เป็นคนไทย จำนวน ๕๐๕ คน แบ่งเป็นชาย ๓๒๖ คน หญิง ๑๕๘ คน เด็กชาย ๑๖ คน เด็กหญิง ๕ คน ขอทานต่างด้าว จำนวน ๑๗๘ คน แบ่งเป็นชาย ๘๓ คน หญิง ๕๔ คน เด็กชาย ๑๗ คน เด็กหญิง ๒๔ คน” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th