นางอรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัท แอลแอลไอที ประเทศไทย จำกัด (หลิงหลง) เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณคลังเก็บผลิตภัณฑ์(ยางรถยนต์) และลุกลามไปยังอาคารเก็บผลิตภัณฑ์ข้างเคียง ได้รับความเสียหายรวมทั้งหมด 6 อาคาร รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,500 ล้านบาท และจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้รับรายงานจากทั้งทางบริษัทฯ และส่วนราชการในพื้นที่ ว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด เนื่องจากขณะเกิดเหตุพนักงานเข้ากะประมาณ 300 คน ในอาคารการผลิต ส่วนอาคารคลังสินค้าไม่มีการปฏิบัติงาน และได้อพยพพนักงานออกจากพื้นที่ได้ทั้งหมดตามแผนฉุกเฉิน พร้อมกำชับ กนอ. ยังคงเฝ้าระวังควบคุมอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อเตรียมพร้อมในการแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที และสั่งการบริษัทฯ โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 มาตรา 39 ให้บริษัทฯ หยุดประกอบกิจการโรงงานชั่วคราว เป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อให้โรงงานปรับปรุงแก้ไขอาคารให้แล้วเสร็จ และจะพิจารณาอนุมัติให้ทยอยเปิดดำเนินการแต่ละอาคารต่อไป ทั้งนี้ในระหว่างที่โรงงานปิดดำเนินการชั่วคราว ทางบริษัทฯยังคงมีการจ่ายค่าแรงตามปกติ 100%
สำหรับบริษัท แอลแอลไอที เป็นบริษัทลูกของบริษัท หลิงหลง ในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์ เพื่อการส่งออก โดยมีตลาดที่สำคัญอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งในเดือนกุมพาพันธ์นี้จะมีกำหนดส่งสินค้าไปที่สหรัฐอเมริกา จำนวน 47 ตู้คอนเทนเนอร์ คิดเป็นตู้ละ 1,100 เส้น ปัญหาดังกล่าว บริษัทแม่อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขอเลื่อนกำหนดส่งให้กับลูกค้า โดยส่วนที่เสียหายจะเป็นในส่วนของคลังเก็บผลิตภัณฑ์และคลังวัตถุดิบ หากบริษัทสามารถดำเนินการปรับปรุงโรงงานให้แล้วเสร็จได้ภายใน 30 วัน และเริ่มการผลิตได้ บริษัทจะดำเนินการเช่าคลังสินค้า เพื่อจัดเก็บสินค้าที่ผลิตแล้วเพื่อเตรียมการส่งออกต่อไป
ทั้งนี้ กนอ. ยังมีมาตรการดูแลสิ่งแวดล้อม อย่างเข้มงวด โดยการนำรถตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ จากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด มาตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณใต้ทิศทางลม พร้อมทั้งนำ GAS MET ซึ่งเป็นเครื่องมือตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบพกพา ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถตรวจวัดได้ในจุดต่างๆ ทั้งในบริเวณพื้นที่นิคมฯ และชุมชนโดยรอบ และบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศอัตโนมัติบริเวณ เหนือลม โดยผลจากการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบว่ามีค่าเฝ้าระวังหลัก คือ ฝุ่น และซัลเฟอร์ไดออกไซต์ (SO2) สูงขึ้นแต่ยังอยู่ในเกณฑ์ค่ามาตรฐาน ของกรมควบคุมมลพิษ สำหรับน้ำจากการดับเพลิง มีการปิดกั้นรางระบายน้ำบริเวณโดยรอบบริษัทฯ เพื่อไม่ให้ไหลออกสู่ภายนอก และนำไปบำบัดตามกระบวนการมาตรฐานอย่างถูกวิธีต่อไป
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กนอ. บริษัทเหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด(มหาชน) บริษัท แอลแอลไอที ฯ สาธารณสุขจังหวัด และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่เข้าไป เยี่ยมเยือนสอบถาม พร้อมให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในด้านต่าง ๆได้แก่ อุปกรณ์ป้องกันเพิ่มเติม พร้อมการเข้าไปดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ชุมชนต่างๆในบริเวณใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบ อาทิ ชุมชนบ้านหนองค้างคาว โรงเรียนบริษัทชุมชนน้ำตาลตะวันออก บริเวณวัดศรีพุ่มโพธิ์ และอบต.เขาคันทรง เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจกับชุมชนอย่างใกล้ชิด
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th