พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมชายอายุ ๔๐ ปี ที่บังคับข่มขืนเด็กหญิงอายุ ๑๔ ปี ซึ่งเป็นลูกเลี้ยง มาเป็นเวลานานนับปี โดยข่มขู่จะฆ่าหากบอกคนอื่น ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตนได้กำชับ ให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี (พมจ.สุราษฎร์ธานี)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมทั้งฟื้นฟูเยียวยาสภาพจิตใจเด็กหญิงดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีชายชราวัย ๗๘ ปี ชาวบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ป่วยเป็นอัมพฤกษ์เดินขาลาก ไม่ค่อยมีแรง เดินเร่ร่อนออกจากบ้าน ค่ำไหนนอนนั่น เนื่องจากต้องทนอยู่กับลูกทั้ง ๖ คน ไม่ไหว หลังจากยกทรัพย์สมบัติที่ดินร้อยไร่ให้ลูกทั้งหมด ขณะนี้อดีตผู้ใหญ่บ้านเข้าช่วยเหลือให้มาอาศัยที่บ้าน แต่ลูกๆ ทราบข่าวก็ยังไม่สนใจ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก (พมจ.พิษณุโลก)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาครอบครัวของชายชรา เพื่อให้สามารถอยู่ด้วยกันด้วยความรักความเข้าใจ และเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยาสภาพจิตใจชายชราเป็นลำดับแรก
"นอกจากนี้ ตนยังเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรณรงค์สร้างความเข้าใจให้สังคมได้ตระหนักและรับรู้ถึงการแสดงความรักของวัยรุ่นในช่วงวันวาเลนไทน์ที่ถูกต้องและเหมาะสม ว่าความรักที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งต้องมีสติ รู้ตัว รู้คิด โดยเฉพาะวัยรุ่นหญิงควรระมัดระวังไม่ให้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก รู้จักรักนวลสงวนตัว และรู้จัก ที่จะปฏิเสธ เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมของแม่วัยรุ่นในสังคมต่อไป”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th