ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันชี้แจงสัญญาคุณธรรมการจัดซื้อจัดจ้างผ่านรายการวิทยุภาคภาษาอังกฤษ

ข่าวทั่วไป Tuesday February 17, 2015 17:39 —สำนักโฆษก

ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สัมภาษณ์ นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ในฐานะคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ผ่านรายการ“ The Spokesman’s Report” ซึ่งผลิตโดยสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (ภาคภาษาอังกฤษ) FM 88.0 MHz ออกอากาศในรายการข่าวภาคค่ำ เวลา 19.00 น. และออกอากาศซ้ำอีกครั้งในข่าวภาคเช้าเวลา 07.00 น.ของวันถัดไป โดยนายประมนต์ฯได้เปิดเผยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ“สัญญาคุณธรรม” หรือ Integrity Pact ซึ่งเป็นการตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐและผู้ต้องการเข้าร่วมการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการลงทุนต่างๆของรัฐว่าจะปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีการเรียกรับสินบนหรือประโยชน์อื่นใด รวมทั้งจะต้องเปิดเผยข้อมูลโครงการที่สำคัญในทุกกระบวนการให้โปร่งใสโดยยอมรับให้มีบุคคลที่สามที่มาจากภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างนั้นๆ ตั้งแต่เริ่มเขียนข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง(TOR) จนสิ้นสุดโครงการโดยจะนำแนวทางสัญญาคุณธรรม มาใช้เป็นโครงการนำร่องในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเพื่อช่วยให้เกิดความโปร่งใส และลดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน

นายประมนต์ฯ กล่าวว่า ในส่วนของผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ผู้สังเกตการณ์นั้น ต้องผ่านการคัดเลือกจากบุคคลที่มีความรู้และประสบการณ์ในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมีความสามารถในเรื่องหรือโครงการที่กำลังดำเนินการ นอกจากนี้ยังต้องเป็นบุคคลที่มีความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ชัด มีความเป็นกลางและต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนั้น ๆ

นายประมนต์ฯ มีความเห็นว่าประชาชนอยากเห็นความจริงใจของรัฐบาลและสิ่งที่รัฐบาลจะสามารถสนองตอบความต้องการของประชาชนได้คือ การนำผู้กระทำความผิดต่าง ๆ มาดำเนินการตามกฎหมาย โดยไม่มีข้อยกเว้น รวมถึงการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในปัญหาอันเกิดจากการทุจริตคอร์รัปชันให้กับเยาวชนและประชาชนทั่วไปอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันภาคประชาชนและภาคประชาสังคมต่าง ๆ จะต้องมีความตื่นตัวในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและการดำเนินการต่าง ๆ ของภาครัฐด้วย

ตอนท้าย นายประมนต์ฯ กล่าวว่า นับเป็นความหวังหนึ่งที่อยากเห็นดัชนีความโปร่งใสของประเทศมีการปรับอันดับในทิศทางที่ดีขึ้น แต่การถูกจัดให้อยู่ในลำดับใดนั้น ไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะความก้าวหน้าของประเทศและปัญหาการทุจริตที่ลดลงรวมทั้งการมีจิตสำนึกที่ดีของประชาชนเพิ่มขึ้นเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญมากกว่าตัวชี้วัดดังกล่าว

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ