ด้าน นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ได้กล่าวชี้แจงว่า การเปิดสัมปทานพลังงานรอบที่ 21 ครั้งนี้ ถือว่ามีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน เนื่องจากประเทศไทยดำเนินการล่าช้ามานานแล้ว และสัมปทานในรอบนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่นำพลังงานมาใช้เท่านั้น แต่เป็นการป้องกันความเสี่ยงในเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานด้วย ถ้าหากดำเนินการล่าออกไปอีก 2 ปี เพื่อแก้ไขกฎหมาย ถือว่า เป็นความเสี่ยงมาก และคงปล่อยให้ช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ขณะนี้ นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวถึง ระบบแบ่งปันผลผลิตที่กลุ่มผู้คัดค้านเสนอมานั้น มีการใช้ในบางประเทศแล้ว แต่ที่ผ่านมา ก็ยังพบปัญหาและจุดอ่อนเช่นกัน ขณะที่ระบบสัมปทานที่รัฐใช้อยู่สร้างประโยชน์ ไม่ใช่แค่ค่าภาคหลวง แต่ยังมีภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษด้วย ดังนั้น การใช้ระบบใดก็ย่อมขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละประเทศว่า มีสถานการณ์ที่แตกต่างกันอย่างไรด้วย
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th