พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านสตรีและเด็ก กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ขับเคลื่อนงานตามแผนปฏิบัติการและมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านสตรีและเด็กให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญในมาตรการด้านการป้องกัน โดยมีการทบทวน MOUและกระชับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนการป้องกันการเดินทางเข้าประเทศของสตรีอย่าง ผิดกฎหมายได้มีการเข้มงวดสกัดกั้นตามพื้นที่เขตชายแดน มีการตรวจสอบจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการค้ามนุษย์ และมาตรการการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง รวมทั้งการเพิ่มพนักงานสอบสวนหญิงในจังหวัดพื้นที่เสี่ยง ตลอดจนการเพิ่มจำนวนล่ามแปลภาษาในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว เพื่อใช้ในกระบวนการคัดแยกผู้เสียหายจากกระบวนการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ ตนยังได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานด้วยความเข้มงวดในกระบวนการคัดแยกผู้เสียหายทุกคน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
"ส่วนกรณีหญิงชราวัย ๗๘ ปี ป่วยเป็นโรคความดันสูง เบาหวาน และโรคไตอาศัยอยู่ตัวคนเดียวในบ้านพักที่หลังคาผุพัง โดยได้รับอาหารจากวัดเพื่อประทังชีวิตและมีเพื่อนบ้านช่วยเหลือจุนเจือ แต่ยังไม่มีหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือดูแล ที่จังหวัดสกลนคร ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสกลนคร (พมจ.สกลนคร)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งให้การช่วยเหลือที่จำเป็นในเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือดูแลด้านการรักษาพยาบาลหญิงชราอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปรับปรุงที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมให้ถูกสุขลักษณะเหมาะสมกับผู้สูงอายุต่อไป”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th