รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เป็นที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้สร้างโอกาสให้แก่เด็กและเยาวชนได้แสดงออกซึ่งอัจฉริยภาพ ศักยภาพ และสุนทรียภาพอย่างสร้างสรรค์ ตลอดจนสนับสนุนส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ใช้ความรู้ความสามารถในการพัฒนาการเรียนการสอนอย่างเต็มกำลังความสามารถ การจัดงานในครั้งนี้ จึงเป็นเวทีสำคัญในการสะท้อนผลสัมฤทธิ์ของระบบการศึกษา เป็นการค้นหาสุดยอดฝีมือในด้านต่างๆ ของเด็กไทย ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางด้านวิชาการ วิชาชีพ ศิลปะ ดนตรี และการแสดง
นอกจากนั้นการจัดงานยังสร้างการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครู นักเรียน บุคลากรทางการศึกษาในภูมิภาคต่างๆ นำไปสู่ความร่วมมือร่วมใจในการขับเคลื่อนระบบการศึกษาให้ก้าวหน้าและพัฒนาอย่างเป็นระบบตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือลูกหลานและเยาวชนของไทย ให้ได้รับการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ เติบโตขึ้นมาเป็นขุนกำลังที่สำคัญของประเทศต่อไปในอนาคต ขอชื่นชมนักเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา และทุกภาคส่วน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานครั้งนี้ให้สำเร็จและสัมฤทธิ์ผลตรงตามเป้าหมาย ทั้งการจัดงานในเขตพื้นที่การศึกษา ระดับภูมิภาค และระดับชาติ
อย่างไรก็ตาม การจัดการศึกษา การพัฒนาผู้เรียนจะต้องดำเนินไปด้วยความมุ่งมั่น ดูแลและเอาใจใส่ของครู ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่จะต้องร่วมกันยกระดับความรู้ความสามารถทางวิชาการให้กับนักเรียนอย่างทั่วถึงเสมอภาค ให้สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติอย่างแท้จริง
จึงขอเชิญชวนประชาชนและผู้สนใจมาเยี่ยมชมและให้กำลังใจแก่นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ 64 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2558 ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ซึ่งภายในงานมีการแสดงความสามารถของนักเรียนที่เป็นสุดยอดของแต่ละภูมิภาค มีเวทีย่อยและกิจกรรมหลากหลายทั้งการประกวดด้านวิชาการ ด้านวิชาชีพ การแสดงนาฏศิลป์ หัตถกรรม ดนตรี เพื่อค้นหาสุดยอดผู้มีความสามารถในแต่ละด้าน เพื่อรับรางวัลระดับชาติในครั้งนี้.
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า นับเป็นเวลา 102 ปีแล้วที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 6 ได้ทรงริเริ่มจัดงานตั้งแต่ปี 2455 เป็นต้นมา สพฐ.ในฐานะหน่วยงานหลักในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับเด็กและเยาวชน ให้เป็นผู้ที่พร้อมด้วยคุณลักษณะที่พึงประสงค์ สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้นำพระราชปณิธานของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 มาสืบสานต่อเนื่องถ่ายทอดมาสู่อนุชนรุ่นหลัง โดยยึดมั่นในพระราชปณิธานของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 และเจตนารมณ์ของการจัดการศึกษาที่มุ่งหวังให้งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาอย่างเป็นระบบ ทั้งการบริหารจัดการ การพัฒนาบุคลากร การจัดการเรียนการสอนทั้งสายสามัญและวิชาชีพ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ภายในงานปีนี้ซึ่งประกอบด้วย กิจกรรมการแข่งขันประชันทักษะฝีมือของนักเรียนตัวแทน 4 ภูมิภาค กิจกรรม 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งสิ้น 673 กิจกรรม
สพฐ.คาดหวังว่า กระบวนการจัดงานศิลปหัตถกรรมจะช่วยส่งเสริมการทำงานอย่างเป็นระบบและพัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างมีเป้าหมาย ครู นักเรียน บุคลากรทางการศึกษา ได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างรอบด้าน มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้และได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ มีการตื่นตัว ค้นคว้าหาความรู้ในนวัตกรรมใหม่ๆ อันเป็นผลเนื่องจากการเตรียมตัวและการเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ทั้งในระดับโรงเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ระดับภูมิภาค และระดับชาติในครั้งนี้
นอกจากนี้ นักเรียนยังได้รับการพัฒนาทักษะทางด้านวิชาการ วิชาชีพ ดนตรี นาฏศิลป์ไทย ศิลปหัตถกรรม และรู้คุณค่าในตนเอง เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รักและหวงแหนมรดกทางวัฒนธรรมของไทย เป็นเวทีให้นักเรียนได้แสดงออกตามความสามารถของตนเองอย่างอิสระ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และสร้างภูมิคุ้มกันจากภัยสิ่งเสพติดทั้งปวง.
ภายหลังพิธีเปิดและเยี่ยมชมนิทรรศการเสร็จสิ้น รมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในประเด็นเกี่ยวกับการลดวิชาการสอบ O-Net ของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติฯ (สทศ.) ว่าขณะนี้ได้ดูรายละเอียดที่ สทศ. ส่งมาให้แล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามที่ได้หารือไว้กับ สทศ.และทุกคน ซึ่งมีความเห็นสอดคล้องกันว่าควรจะลดการสอบ O-Net จาก 8 กลุ่มสาระวิชา ให้เหลือ 5 กลุ่มสาระวิชาที่สอบ โดยข้อสอบกลาง และอีก 3 กลุ่มสาระวิชาให้สอบโดยโรงเรียนและเขตพื้นที่การศึกษา แต่ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะต้องการหารือกับ สทศ.อีกครั้งในเรื่องของเวลาว่าจะสอบปีใด
โดยส่วนตัวเห็นว่าหากจะลดวิชาสอบไม่จำเป็นต้องรอเวลาถึง 3 ปี เพราะนักเรียนต้องสอบอยู่แล้ว และสามารถประกาศล่วงหน้าให้เด็กรู้ตั้งแต่ตอนนี้ได้เลย แต่มีบางท่านให้ความเห็นว่าควรจะมีการประกาศล่วงหน้า 3 ปี จึงต้องการจะหารือกับ สทศ.ในเรื่องของเวลาในการเริ่มต้นที่เหมาะสมต่อไป
ภาพ สถาพร ถาวรสุข
นวรัตน์ รามสูต
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
17/2/2558
ที่มา: http://www.thaigov.go.th