นายแก่นเพชร ช่วงรังษี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายผลักดันให้การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันเป็นวาระแห่งชาติ และให้การสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ พร้อมทั้งได้กำหนดนโยบายด้านการส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญที่ทุกหน่วยงานต้องเร่งดำเนินการ โดยที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้มีการขับเคลื่อนการปราบปรามการทุจริตตามนโยบายของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง และได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกระทรวงมหาดไทย (ศปท.มท.) ขึ้น เพื่ออำนวยการในภารกิจด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันของกระทรวงมหาดไทย ได้มีการกำหนดมาตรการทั้งด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตขึ้น ได้แก่ การดำเนินการตามแผนมหาดไทยใสสะอาด การปฏิบัติตามแนวทาง 3 ป 2 ย คือ 1) ปลูกฝัง 2) ป้องกัน 3) ปราบปราม 4) ยกย่องชมเชย และ 5) ยึดหลักการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตบังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ทั้งนี้ กลไกสำคัญที่จะช่วยทำให้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในวงราชการลดน้อยลง และที่ดีที่สุดคือ การให้ความสำคัญกับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายต่อต้านการทุจริตให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วน เพื่อรวมสร้างกลไกในการป้องกันการทุจริตทั้งในตนเองและองค์กร ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาล และแผนงานเชิงรุกในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน กระทรวงมหาดไทยจึงได้จัดทำโครงการอบรมให้ความรู้ ปลุกจิตสำนึก ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ให้กับเครือข่ายภาครัฐต่อต้านการทุจริตขึ้น ภายใต้แนวคิด “ข้าราชการไทยไร้ทุจริต” โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย (ส่วนกลาง) จำนวน 70 คน
รอง?ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดอบรมในครั้งนี้ ถือเป็นการขยายผลในการสร้างเครือข่ายภาครัฐร่วมต่อต้านการทุจริต และเป็นการเสริมสร้างแนวคิดให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติงานด้วยความโปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต ตรวจสอบได้ และสร้างค่านิยมในการต่อต้านผู้มีความประพฤติในทางทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งจะทำให้เกิดความเข้มแข็งในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในหน่วยงานภาครัฐมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดความโปร่งใสและภาพลักษณ์ใหม่ อันจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและประเทศชาติเพิ่มมากขึ้น
ที่มา: http://www.thaigov.go.th