นายกรัฐมนตรีคาดจะมีการอนุมัติงบลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานและการลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมสั่งลดขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ

วันนี้ (26 ก.พ.58) เวลา 16.30 น. ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ภายหลังเสร็จสิ้นการมอบโล่แสดงความยินดีกับบริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนี DJSI ประจำปี 2558 และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ธุรกิจไทยขับเคลื่อนไทยสู่ความมั่งคั่งยั่งยืนด้วยมาตรฐานสากล” ในงาน "ธุรกิจไทยขับเคลื่อนไทยสู่ความมั่งคั่งยั่งยืนด้วยมาตรฐานสากล : Thai Corporate Moving toward Sustainable Growth,DJSI" พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังรัฐบาลมีนโยบายจะจัดสรรงบประมาณ จำนวน 40,000 ล้านบาท เพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในปี 2558 ว่า สิ่งที่มองคือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมหรือมหภาคของรัฐ และเศรษฐกิจในระดับล่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเกษตร การค้าและการลงทุนในประเทศ ซึ่งตรงนี้จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีกำลังในการที่จะจับจ่ายใช้สอยได้ รวมทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม และการเชื่อมต่อหรือการสร้าง connectivity ให้ได้ ควบคู่กับการทำรางรถไฟใหม่ เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก ตะวันตก เหนือ และใต้ในอนาคต ทั้งนี้การที่จะสร้างความเข้มแข็งการลงทุนจะต้องมีความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของระบบสาธารณูปโภค การดูแลรายได้เกษตรกร ต้นทุนการผลิต และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการผลิต โดยได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทยไปดูแลในเรื่องดังกล่าวแล้ว เพื่อเสริมในด้านการค้าการลงทุนขนาดใหญ่ ขณะที่การตั้งโรงงานจะต้องมีการตั้งโรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยใช้สิทธิ์จีเอสพี และเข้ามาแปรรูปในประเทศไทย ทั้งนี้คาดว่านอกจากงบประมาณ 4 หมื่นล้านที่อนุมัติไปแล้วก็จะมีเรื่องของการลงทุนทั้งในด้านของสาธารณูปโภคพื้นฐานและการลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ