รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า อิสราเอลและไทยมีความสัมพันธ์ทางการทูตมายาวนานกว่า 60 ปี และความสัมพันธ์ทั่วไปก็เป็นไปด้วยดีมาอย่างต่อเนื่อง มีความร่วมมือด้านการศึกษาที่ดีระหว่างสองประเทศ เช่น การมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยในการเดินทางไปฝึกอบรมที่อิสราเอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งนักศึกษาอาชีวศึกษาไทยไปฝึกอบรมที่อิสราเอล และการส่งผู้เชี่ยวชาญจากอิสราเอลมาฝึกอบรมการสอนภาษาอังกฤษแก่ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาของไทย เป็นต้น
ต้องยอมรับว่าประเทศไทยได้รับประโยชน์มากมายจากการดำเนินความร่วมมือที่ผ่านมา เพราะมีความเชื่อมั่นว่าบุคลากรจากอิสราเอลมีขีดความสามารถสูงในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การวิจัย วัฒนธรรม หากมีการดำเนินความร่วมมือในด้านดังกล่าวที่จะนำไปสู่นวัตกรรมใหม่ในการพัฒนาประเทศ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความร่วมมือของสองประเทศมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงหวังว่าฝ่ายอิสราเอลจะให้การสนับสนุนความร่วมมือด้านการศึกษากับไทยต่อไป
รมว.ศึกษาธิการ ให้ความเห็นต่อข้อเสนอการรับประกันการมีงานทำของผู้ที่ได้รับทุนของอิสราเอลว่า หากเป็นทุนการศึกษาแบบไม่มีเงื่อนไข ผู้จบการศึกษาจะมีอิสระในการเลือกทำงานกับภาครัฐหรือเอกชนก็ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับทุนมักจะเป็นผู้ที่มีความสามารถและมีศักยภาพสูง เมื่อจบการศึกษาแล้วจึงมีงานทำทุกคนและส่วนใหญ่จะเลือกเข้ารับราชการ ดังนั้น การมอบทุนการศึกษาของอิสราเอลจะไม่เป็นการสูญเปล่าอย่างแน่นอน
เอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ กล่าวว่า อิสราเอลให้ความสำคัญด้านการศึกษาเป็นอันดับแรก โดยถือเป็นเสาหลักที่สำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิสราเอลด้วย จึงต้องการให้มีการสานต่อความสัมพันธ์ดังกล่าวให้ดำเนินต่อไป อีกทั้งต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนการศึกษาที่ทันยุคสมัย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งการฝึกอบรมด้านอาชีวศึกษาเพื่อให้สอดคล้องกับการดำรงชีวิตในปัจจุบัน
ในการนี้ มีความยินดีที่จะให้การต้อนรับบุคลากรจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) รวมทั้งหน่วยงานด้านการศึกษาที่เกี่ยวข้องซึ่งจะเดินทางไปศึกษาเรียนรู้การจัดการศึกษาที่รัฐอิสราเอล โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการยืนยันช่วงเวลาเดินทางของคณะดังกล่าว
นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงความต้องการที่จะขยายกรอบความร่วมมือด้านการศึกษากับไทยโดยเฉพาะในระดับอุดมศึกษาและการวิจัย เนื่องจากปัจจุบันการศึกษาเข้ามามีบทบาทในภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น เช่น การนำผลการวิจัยของสถาบันอุดมศึกษาไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือปรับปรุงขั้นตอนการผลิตได้ โดยรับประกันว่านักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษาของอิสราเอล เมื่อจบการศึกษาแล้วจะมีงานทำอย่างแน่นอน
โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ ได้เสนอให้มีการเรียนการสอนเรื่อง “การล้างเผ่าพันธุ์” (Holocaust) ในสถานศึกษาของไทยในระดับชั้นตามที่ รมว.ศึกษาธิการเห็นสมควร เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของชาวยุโรป จึงต้องการให้นักเรียนนักศึกษาไทยมีความรู้และความเข้าใจเรื่องการล้างเผ่าพันธุ์ที่ถูกต้อง ซึ่งอิสราเอลได้จัดทำหลักสูตรระยะสั้นในการฝึกอบรมครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อสามารถสอนนักเรียนนักศึกษาได้ถูกต้อง จึงต้องการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงศึกษาธิการในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ รมว.ศึกษาธิการยินดีรับข้อเสนอทั้งสองเรื่องไว้เพื่อพิจารณาแล้ว
ภาพ สถาพร ถาวรสุข
กุณฑิกา พัชรชานนท์
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
20/2/2558
ที่มา: http://www.thaigov.go.th