นายอารักษ์ พรหมณี รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานได้รายงานผลการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเร่งด่วนและเป็นวาระชาติสำคัญ ในช่วงระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะการขับเคลื่อนปัญหาค้ามนุษย์ ในภาคส่วนด้านแรงงาน มีความคืบหน้าที่ชัดเจน มาตรการตรวจร่วมระหว่างกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความก้าวหน้า 'ชุดตรวจปฏิบัติการ (Task Force)' ใน 22 จังหวัดติดชายฝั่งทะเล พบผลการตรวจเรือประมงว่ามีการฝ่าฝืน/ไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล พ.ศ. 2557 จำนวน 21 ลำ มีการจ้างลูกจ้างต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 5 คน ไม่จ่ายตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ จำนวน 56 คน ไม่มีใบอนุญาต จำนวน 7 คน สภาพการทำงานส่วนใหญ่ ที่พักไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่มีห้องส้วม สภาพความปลอดภัยในเรือไม่ถูกต้อง ซึ่งพนักตรวจแรงงานได้ออกคำสั่งให้ปฏิบัติได้ออกคำสั่งให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับกรณีพบการใช้แรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายจ้างต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีโดยทันที นอกจากนี้ได้ดำเนินการประชุมชี้แจงกฎกระทรวงฯในงานประมงทะเลให้แก่นายจ้าง ลูกจ้างในกิจการประมงทะเล จำนวน 1,418 แห่ง ลูกจ้าง 9,164 คน (ข้อมูล ณ 20 กุมภาพันธ์ 2558) สำหรับผลการปฏิบัติงานตรวจสอบ ปราบปราม จับกุมและดำเนินคดีนายจ้างและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย (ทั่วราชอาณาจักร) ตามคำสั่ง คสช.ที่ 100/2557 และ 101/2557 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 ถึง 30 มกราคม 2558 มีการตรวจสถานประกอบการจำนวน 1,282 แห่ง แรงงานต่างด้าวผ่านการตรวจ 39,432 คน ดำเนินคดีนายจ้าง 244 ราย แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 1,742 คน เป็นสัญชาติเมียนมา 667 คน กัมพูชา 905 คน ลาว 111 คน และสัญชาติอื่นๆ 59 คน และขณะเดียวกันได้มีการวางยุทธศาสตร์รองรับปัญหาการขาดแคลนแรงงานของภาคอุตสาหกรรมและการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวจังหวัดชายแดน รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน (BOI) ได้ประสานความร่วมมือเตรียมร่าง MOU นำเข้าแรงงานจากประเทศข้างเคียง นอกเหนือจากเวียดนามซึ่ง ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้จดทะเบียนแรงงานต่างด้าวได้แล้ว อาทิเช่น บังคลาเทศ ภูฏาน เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการแก้ไขกฎหมายเพื่อการคุ้มครองแรงงานเพื่อให้แรงงานทุกกลุ่มได้รับความเป็นธรรม อาทิ การประกาศใช้กฎกระทรวง ว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในภาคเกษตรกรรม พ.ศ. 2557 มีผลบังคับใช้นับแต่วันที่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 22 ธันวาคม 2557 และประกาศใช้กฎกระทรวง ว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล พ.ศ. 2557 มีผลบังคับใช้นับแต่วันที่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 30 ธันวาคม 2557 นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558 ครม.ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ขณะนี้ได้ดำเนินการผลักดันร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... รวมถึงการเตรียมผลักดันการตั้งหน่วยงานระดับกรมด้านความปลอดภัยในการทำงาน
จากนโยบาย 'คนไทยทุกคนมีงานทำ' ของ พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำมาสู่การจัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย ณ กระทรวงแรงงานอาคาร 3 ชั้น ในรูปลักษณ์สีสันโดดเด่นสะดุดตา ซึ่งเปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2558 เป็นต้นมา ขณะนี้มียอดผู้มาใช้บริการมากกว่าหมื่นคนแล้ว และ ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ฯในลักษณะใกล้เคียงกัน เพิ่มขึ้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งจะเป็น 'แม่ข่าย' เพื่อให้ประชาชนในเขตพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภายใต้ได้เข้าถึงบริการ 'บริการด้วยใจเพื่อคนไทยมีงานทำ'โดยมีกำหนดจะเปิดศูนย์ฯ เพิ่มที่จังหวัดนครราชสีมาในวันที่ 12 มีนาคม นี้ เพื่อขยายบริการในพื้นที่ภาคอิสาน ทั้งนี้ ตามแผนที่กำหนด กระทรวงแรงงานจะเปิดศูนย์ฯ เพื่อให้บริการตามกลุ่มจังหวัดใหญ่ๆ ในทุกภูมิภาคซึ่งจะทำให้ประชาชนทุกภาคส่วน“เข้าถึงสิทธิและบริการด้านแรงงาน”
กระทรวงแรงงานมีภารกิจดูแลแรงงานนอกระบบ คนพิการ และผู้สูงวัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในด้านรายได้ โดยได้กำหนดให้อาสาสมัครแรงงาน ซึ่งเป็นตัวแทนของกระทรวงแรงงานในทุกตำบล จำนวน 7 พันกว่าราย เป็นผู้ดูแลในระดับพื้นที่อย่างทั่วถึง ทั้งด้านการฝึกและพัฒนาฝีมือแรงงาน และการใช้สิทธิประโยชน์ประกันสังคม การประสานตำแหน่งงานว่าง เป็นต้น สำหรับพื้นที่ที่มีปัญหาด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาสและ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา (อำเภอจะนะ สะบ้าย้อย นาทวี และเทพา) กระทรวงมีบัณฑิตแรงงาน จำนวน 380 คน เป็นผู้แทนเพื่อเชื่อมต่อบริการด้านแรงงานทุกมิติลงสู่ระดับพื้นที่ สอดคล้องหลักการ “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา”
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานได้รับการประสานผ่านผู้นำและตัวแทนสภาองค์การนายจ้างและลูกจ้าง เพื่อเตรียมจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2558 ซึ่งทั้ง 3 ฝ่าย มีความเห็นร่วมกัน ว่า ปี2558 จะร่วมกันแสดงความจงรักภักดีเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา ด้วยการสวมใส่เสื้อสีเหลืองขลิบม่วง และสวมหมวกสีม่วง โดยรัฐมนตรีแรงงานจะเป็นประธานในพิธีสงฆ์ และร่วมเดินในขบวนจากลานหน้าพระรูปไปท้องสนามหลวง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้เสนอแนวคิดตั้ง 'สภาความร่วมมือแรงงานสัมพันธ์' มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีเวทีพูดคุยและร่วมกันแก้ข้อขัดแย้ง และสร้างความเข้าใจถูกต้องเกี่ยวปัญหาแรงงาน โดยสภาฯ อาจแต่งตั้งตัวแทนจากสภานายจ้าง 14 องค์กร สภาลูกจ้าง 14 องค์กร มีภาคแรงงานนอกระบบ นักวิชาการด้านสันติวิธี และภาครัฐ ร่วมกันเป็นคณะกรรมการ
กระทรวงแรงงาน “บริการด้วยใจ เพื่อคนไทยมีงานทำ”
กลุ่มงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
ที่มา: http://www.thaigov.go.th