ฐานะการคลังของรัฐบาลในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558

ข่าวทั่วไป Thursday February 26, 2015 15:29 —สำนักโฆษก

ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557 – มกราคม 2558) ว่ารัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 654,482 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 9,277 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.4 เนื่องจากฐานรายได้รัฐวิสาหกิจที่สูงในปีก่อน โดยมีการนำส่งรายได้จากการชำระบัญชีและเงินสดคงเหลือจากการดำเนินงานของ บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงินเป็นสำคัญ ในขณะที่ การเบิกจ่ายงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,059,839 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 15,572 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.5 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 405,357 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 22,787 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 428,144 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 48,399 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 379,745 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมกราคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 116,002 ล้านบาท

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู?อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557 – มกราคม 2558) ว่ารัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 654,482 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 9,277 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.4 เนื่องจากฐานรายได้รัฐวิสาหกิจที่สูงในปีก่อน โดยมีการนำส่งรายได้จากการชำระบัญชีและเงินสดคงเหลือจากการดำเนินงานของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงินเป็นสำคัญ ในขณะที่ การเบิกจ่ายงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,059,839 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 15,572 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.5 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 405,357 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 22,787 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 428,144 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 48,399 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 379,745 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมกราคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 116,002 ล้านบาท

นายกฤษฎาฯ สรุปว่า “การขาดดุลงบประมาณในช่วง 4 เดือน สะท้อนถึงบทบาทภาครัฐในการดำเนินนโยบายขาดดุลงบประมาณเพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ภาคเอกชนยังฟื้นตัวไม่เต็มที่”

ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดประจำเดือนมกราคม 2558 และในช่วง 4 เดือนแรก ปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557 – มกราคม 2558)

ในเดือนมกราคม 2558 รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 80,438 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 57,571 ล้านบาท และขาดดุลเงินนอกงบประมาณ 22,867 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 428,144 ล้านบาท ทั้งนี้รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 48,399 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมกราคม 2558 มีจำนวน 116,002 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ฐานะการคลังเดือนมกราคม 2558

1.1 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 158,166 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 9,195 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 5.5) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากฐานรายได้รัฐวิสาหกิจที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน

1.2 รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จำนวน 215,737 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 2,528 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.2) ประกอบด้วย รายจ่ายปีปัจจุบัน จำนวน 197,891 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 11,496 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 6.2) ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ 181,071 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.0 และรายจ่ายลงทุน 16,820 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 89.0 และการเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณปีก่อนจำนวน 17,846 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกัน

ปีที่แล้วร้อยละ 33.4

การเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สำคัญในเดือนนี้ ได้แก่ เงินอุดหนุนของกระทรวงศึกษาธิการ 23,485 ล้านบาท และเงินอุดหนุนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 22,974 ล้านบาท

1.3 จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนมกราคม 2558 ขาดดุล 57,571 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 22,867 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากรายจ่ายบางส่วนเหลื่อมมาจากเดือนธันวาคม ทำให้รัฐบาล

ขาดดุลเงินสดจำนวน 80,438 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 17,116 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังกู้ชดเชยการขาดดุล) ขาดดุลเท่ากับ 63,322 ล้านบาท

2. ฐานะการคลังในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557 – มกราคม 2558)

2.1 รายได้นำส่งคลัง รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 654,482 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 9,277 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.4) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากฐานรายได้รัฐวิสาหกิจที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน

2.2 รายจ่ายรัฐบาล การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 1,059,839 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 15,572 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.5) ประกอบด้วยรายจ่ายปีปัจจุบัน 964,262 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37.4 ของวงเงินงบประมาณ สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.8 และรายจ่ายปีก่อน 95,577 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.5 รายจ่ายปีปัจจุบันจำนวน 964,262 ล้านบาท ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ 906,180 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 42.5 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำหลังโอนเปลี่ยนแปลง 2,130,806 ล้านบาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 10.3 และรายจ่ายลงทุน 58,082 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 13.1 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนหลังโอนเปลี่ยนแปลง 444,194 ล้านบาท) ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 53.7

2.3 ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ขาดดุล 428,144 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 405,357 ล้านบาท และขาดดุลเงินนอกงบประมาณจำนวน 22,787 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังสุทธิ ทั้งนี้ รัฐบาลได้บริหารเงินสดให้สอดคล้องกับความต้องการ

ใช?เงินโดยชดเชยการขาดดุลด้วยการกู้เงินจำนวน 48,399 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล) ขาดดุลเท่ากับ 379,745 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมกราคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 116,002 ล้านบาท

สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร 0 2273 9020 ต่อ 3563

ที่มา : กระทรวงการคลัง

ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ