นายวิเชียร กล่าวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมพระลูกวัดย่านราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ อายุ ๕๖ ปี ที่ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง อายุ ๑๑ ปี มาแล้วหลายครั้งที่กุฏิ และข่มขู่ห้ามบอกใคร พร้อมถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์ อีกทั้งเมื่อค้นกุฏิยังพบยาเสพติดและอาวุธมีดซุกช่อนไว้ ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กหญิงผู้เสียหายและครอบครัวโดยด่วน และกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจสอบรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดขอนแก่น พบเด็กนักเรียนชาย ๘ คน หญิง และนักเรียนหญิง ๓ คน รวมทั้งสิ้น ๑๑ คน อายุระหว่าง ๑๔-๑๕ ปี มาเปิดห้องพักมั่วสุมเมื่อตรวจค้นในห้องพบถุงยางอนามัยที่ยังไม่ได้ใช้และก้นบุหรี่จำนวนมาก ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น (พมจ.ขอนแก่น) เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และปรับทัศนคติของเด็ก ทั้ง ๑๑ คน ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พร้อมชี้แนะผู้ปกครองและโรงเรียน ให้ร่วมกันควบคุม ดูแล ตรวจสอบความประพฤติของบุตรหลานและเด็กนักเรียน ไม่ให้ประพฤติในลักษณะที่ล่อแหลมต่อการกระทำในสิ่งผิดกฎหมาย และจรรยาบรรณของนักเรียน
นายวิเชียร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีครอบครัวหญิงชรา อายุ ๖๕ ปี มีอาชีพเก็บของเก่าขาย ต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานอายุ ๓-๑๐ ขวบ รวม ๔ คน อาศัยอยู่ในเพิงสภาพเก่าทรุดโทรม มีขยะล้อมรอบ ไม่มีห้องน้ำและไฟฟ้าใช้ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (พมจ.พระนครศรีอยุธยา)เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น จัดสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กทั้ง ๔ คน และปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้ถูกสุขลักษณะ เหมาะสมแก่การดำรงชีวิตประจำวันต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th