วันนี้ (5 มี.ค.58) เวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตรผู้บริหารงานด้านกฎหมายภาครัฐระดับสูง รุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 : ธรรมาภิบาลเพื่อการจัดทำและบริหารโครงการสาธารณะขนาดใหญ่ พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้เข้ารับการอบรม โดยมีนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา พร้อมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และผู้เข้ารับการอบรมให้การต้อนรับและเข้าร่วมพิธี
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้รับฟังการนำเสนอรายงานผลสรุปการสัมมนาจากผู้แทนผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรผู้บริหารงานด้านกฎหมายภาครัฐระดับสูง รุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 พร้อมกล่าวปิดการอบรมสรุปสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า การที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้จัดหลักสูตรการอบรมให้กับนักบริหารภาครัฐในด้านกฎหมาย ถือเป็นการเติมเต็มมิติทางกฎหมายให้แก่นักบริหาร ซึ่งเชื่อว่าหลักสูตรนี้ไม่ได้ต้องการฝึกให้ผู้อบรมเป็นนักกฎหมาย แต่ต้องการฝึกให้มีความเข้าใจใน 4 เรื่อง คือ 1. ให้เข้าใจวิธีคิดอย่างนักกฎหมาย ไม่ว่าผู้เข้าอบรมจะมีอาชีพอะไร เมื่อมาเป็นนักบริหารจะต้องเข้าใจวิธีคิดของนักกฎหมายและวิธีคิดอย่างนักกฎหมาย เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ 2. ให้เข้าใจหลักนิติธรรม เพราะรัฐธรรมนูญฉบับที่แล้วที่ยกเลิกไปรวมถึงฉบับที่กำลังร่างใหม่นี้ จะนำเรื่องหลักนิติธรรมไปใส่ไว้อีกว่า ในการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานใดๆ ของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน องค์กรอิสระ ศาล หรือคณะรัฐมนตรี ต้องปฏิบัติหรือดำเนินการให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม 3. ให้เข้าใจคำว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายและหลักในการตีความกฎหมาย โดยในการตีความกฎหมายจะสองมาตรฐาน จะกลับไปกลับมาไม่ได้ ต้องอยู่บนหลักที่สืบมาจากที่ต้องเข้าใจวิธีคิดของนักกฎหมายและเข้าใจหลักนิติธรรม ถึงจะย้อนกลับมาเรื่องการตีความกฎหมายได้ 4. ให้เข้าใจคุณธรรมจริยธรรมของนักบริหารที่จำเป็นต้องใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการทำงาน
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้เข้ารับการอบรมและผ่านหลักสูตรทุกคน โดยขอให้ผู้เข้ารับการอบรมนำสิ่งที่ได้รับจากการเรียน การสัมมนากลุ่ม การศึกษาดูงาน ไปใช้ประโยชน์เมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำประโยชน์ และขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินโครงการนี้ต่อไป อย่าหยุดโครงการ โดยให้ปรับปรุงให้ดีขึ้น เข้มข้นขึ้น มีมาตรฐานขึ้น พร้อมฝากให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกานำข้อเสนอแนะของผู้เข้ารับการฝึกอบรมทั้งสองรุ่นไปพิจารณานำไปใช้ประโยชน์ต่อไป จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้มอบประกาศนียบัตรให้กับผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้บริหารงานด้านกฎหมายภาครัฐระดับสูง รุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 และถ่ายภาพหมู่ร่วมกับผู้เข้ารับการอบรมฯ ด้วย
ทั้งนี้ การฝึกอบหลักสูตรผู้บริหารงานด้านกฎหมายภาครัฐระดับสูง ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดขึ้น เป็นการอบรมเชิงสัมมนา โดยการรับฟังการบรรยายนำจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในลักษณะการสัมมนากลุ่ม การดูงานในต่างประเทศ และการจัดทำรายงานเสนอต่อรัฐบาล มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีทัศนคติความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวางแผนการเสนอร่างกฎหมาย การจัดทำร่างกฎหมายให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ตลอดจนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม นโยบายรัฐบาล แผนการบริหารราชการแผ่นดิน และสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา รวมทั้งทราบถึงสภาพปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อจะได้แก้ไขส่งเสริมให้เกิดมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกฎหมายและหลักนิติธรรม
โดยการฝึกอบรมหลักสูตรฯ รุ่นที่ 2 มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการรัฐสภา ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการทหาร ที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงหรือเทียบเท่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 39 คน โดยมีประเด็นการศึกษา 4 หัวข้อ ได้แก่ กฎหมายกับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ความคุ้มทุนในการจัดทำกฎหมายของประเทศไทย กฎหมายกับการจัดการทรัพย์สินของรัฐ และกฎหมายกับการสร้างค่านิยมของชาติ ฝึกอบรมระหว่าง 19 สิงหาคม 2556–17 ตุลาคม 2556 ส่วนการฝึกอบรมหลักสูตรฯ รุ่นที่ 3 มีผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการรัฐสภา ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการทหาร ที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงหรือเทียบเท่า ผู้บริหารองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ผู้บริหารองค์กรรัฐวิสาหกิจ กรรมการกฤษฎีกา ตุลาการศาลปกครอง จำนวน 28 คน โดยมีประเด็นการศึกษา 4 หัวข้อ ได้แก่ แนวคิดและวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการจัดทำโครงการสาธารณะขนาดใหญ่ บทบาทของกฎหมายในการขับเคลื่อนโครงการสาธารณะขนาดใหญ่ หลักธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วมในการจัดทำและบริหารโครงการสาธารณะขนาดใหญ่ การควบคุมและการตรวจสอบการบริหารโครงการสาธารณะขนาดใหญ่ ฝึกอบรมระหว่าง 5 กันยายน 2557-ตุลาคม 2557
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th