สถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มีนาคม 2558)
1) จำนวนนักท่องเที่ยวตลอดเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวน 5,111,102 คน ขยายตัวร้อยละ 17.18 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวนับตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน มีชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยจำนวนมากจนทำให้นักท่องเที่ยวขยายตัวถึงร้อยละ 30
2) จำนวนนักท่องเที่ยววันที่ 1-10 มีนาคม 2558 มีจำนวน 837,645 คน ขยายตัวร้อยละ 23.7 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ จีน มาเลเซีย และลาว ตามลำดับ สำหรับแนวโน้มนักท่องเที่ยวตลอดเดือนมีนาคม 2558 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยขยายตัวประมาณร้อยละ 20
3) อัตราการเข้าพักแรมของสถานประกอบการที่พักในกรุงเทพฯ จากการสำรวจอัตราการเข้าพักแรมของสถานพักแรมในกรุงเทพฯ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณร้อยละ 70
4) สถานการณ์การท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้าม...พลาด (เดือนมกราคม 2558)
สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้าม...พลาด ซึ่งประกอบด้วย ตราด นครศรีธรรมราช เพชรบูรณ์ ตรัง ชุมพร จันทบุรี เลย น่าน บุรีรัมย์ ลำปาง ราชบุรี และสมุทรสงคราม ซึ่งโดยภาพรวมจำนวนผู้เข้าพักขยายตัวประมาณร้อยละ 6 โดยเฉพาะจังหวัดน่าน ที่ผู้เข้าพักขยายตัวสูงถึงร้อยละ 18 เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่โดดเด่น และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ สายการบินแอร์เอเชียได้เปิดให้บริการเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดน่านและเลย วันละ 2 เที่ยว มีผลช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตมากขึ้น
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เล็งเห็นความสำคัญของ Digital Economy ตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปยัง 12 เมืองต้องห้าม...พลาด ตลอดปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 ได้ง่ายขึ้น ด้วยความร่วมมือจาก บริษัท กูเกิล ประเทศไทย ในการเพิ่มข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักลงบนแผนที่ของกูเกิล หรือ "Google Maps” นักท่องเที่ยวที่ใช้งาน Google Maps จะพบสถานที่ท่องเที่ยว 383 แห่ง ที่พัก 1,348 แห่ง รวมสถานที่ใน 12 เมืองต้องห้าม...พลาด ทั้งสิ้น 1,731 แห่ง ซึ่งจะมีการเพิ่มข้อมูลให้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดภายในกลางปี 2558
งาน International Tourism Borse : ITB ครั้งที่ 49 ณ กรุงเบอร์ลิน
ระหว่างวันที่ 4-8 มีนาคม 2558 นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.กก. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารทั้งจากกระทรวงฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้นำคณะผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย จำนวน 106 ราย ไปร่วมงาน International Tourism Borse : ITB ครั้งที่ 49 ณ ศูนย์นิทรรศการ Messe Berlin Exhibition Cround กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งงานนี้มีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 10,000 ราย จาก 186 ประเทศเข้าร่วม โดยส่วนของประเทศไทย ททท.เนรมิตพื้นที่จัดแสดงขนาด 540 ตารางเมตร ออกแบบตกแต่งคูหาด้วยรูปแบบทันสมัยแต่เน้นเอกลักษณ์แบบไทย พร้อมนำกิจกรรมสาธิตที่เน้นวิถีความเป็นไทยมาร่วมจัดแสดงดึงดูดความสนใจผู้เข้าชมงาน
จากการพบปะกับบริษัทนำเที่ยวรายสำคัญและสื่อมวลชนยุโรปพบว่า กลุ่มดังกล่าวนี้มีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ที่กลับสู่สภาวะปกติของประเทศไทยโดยไม่มีข้อซักถามใดๆ ต่อกรณีสถานการณ์ทางการเมือง จะมีความกังวลอยู่บ้างเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจยุโรปและการอ่อนค่าของเงินยูโร แต่เนื่องจากประเทศไทยมีจุดเด่นในเรื่องคุณภาพของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าเงิน (Value for money) เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่งทางการท่องเที่ยวอื่นๆ ในตลาดยุโรปจึงทำให้ปัจจัยดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวในตลาดเยอรมันมากนัก โดยเฉพาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวระดับบนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
ระหว่างการเข้าร่วมงาน ITB 2015 รมว.กก. ในฐานะหัวหน้าคณะจากประเทศไทยได้มีโอกาสพบปะหารือกับผู้แทนรัฐบาลจากกลุ่มประเทศอาเซียนดังต่อไปนี้
- สหภาพเมียนมาร์ พบกับ H.E. U Htay Aung จาก โดยมีประเด็นพูดคุยเกี่ยวกับการจัดจักรยานมิตรภาพไทย-พม่า ในเส้นทางแม่สอด-เมียวดี, การจัดกิจกรรม AEC Mega Fam Trip การนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากยุโรปและอเมริกามาทัศนศึกษาเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ ซึ่งกำหนดจัดในวันที่ 14-22 พฤษภาคม 2558
- ราชอาณาจักรกัมพูชา พบกับ H.E. So Mara, Secretary of State และ H.E. So Visothy, Under Secretary of State โดยมีความเห็นชอบที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันอย่างเข้มแข็ง รวมทั้งด้านมรดกทางวัฒนธรรม ภายใต้แคมเปญ Two Kingdoms One Destination สำหรับปี 2559 และเห็นชอบที่จะมีกิจกรรมร่วมกันในการประชาสัมพันธ์ก่อนเปิดตัวโครงการดังกล่าวในงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยว ได้แก่ 1) งาน TTM+2015 ที่กรุงเทพฯ เดือนมิถุนายน 2558 2) งาน CITM 2015 ที่นครคุนหมิง เดือนกันยายน 2558 และ 3) งาน WTM 2015 ที่กรุงลอนดอน เดือนพฤศจิกายน 2558
นอกจากนี้ รมว.กก. ยังได้เจรจากับนาย Jurgen Klimke สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งขอเข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและความเป็นไปได้ในการดำเนินความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทย-เยอรมัน ณ คูหาประเทศไทยอีกด้วย
นับว่าการร่วมงานครั้งนี้ส่งผลดีทั้งด้านการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ประเทศได้เป็นอย่างดี
รมว.กก. ปาฐกถาพิเศษด้านการท่องเที่ยว ณ มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2558 นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับเชิญให้ไปกล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับโรดแม็พการท่องเที่ยวของไทย หัวข้อ “Southeast Asia Raising Beyond 2015” แก่คณาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด บอสตัน สหรัฐอเมริกา กว่า 200 คน งานนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ของไทย ได้มีโอกาสพบปะเจรจาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ นาย ไครี จามาลุดดิน อาบู บาการ์ รัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนและกีฬาของมาเลเซีย และเอกอัคราชทูตฟิลิปปินส์ประจำสหรัฐอเมริกา ซึ่งร่วมเป็นองค์ปาฐกด้วย ทั้งนี้ทุกฝ่ายมีความเห็นร่วมกันที่จะผลักดันให้ภูมิภาคอาเซียนเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก เช่น ฟุตบอลโลก หรือโอลิมปิกในอนาคต ซึ่งโดยภาพรวมของการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง สามารถประชาสัมพันธ์การทำงานรัฐบาล เป็นการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว รวมถึงเป็นการเพิ่มบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลกให้สง่างามและเป็นที่ยอมรับ
บูรณาการความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว
จากนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้หน่วยงานระดับกระทรวงได้มีการทำงานแบบประสานความร่วมมือ บูรณาการทรัพยากรที่สามารถเชื่อมโยงภารกิจระหว่างกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาตินั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดทำโครงการต่างๆ ที่เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงต่างๆ ดังนี้
กระทรวงคมนาคม : เตรียมจัดนิทรรศการแสดงเรือยอซ์ต 2 ครั้ง ที่พัทยาและที่ภูเก็ตช่วงปลายปีเพื่อแสดงให้เห็นว่าไทยมีศักยภาพพร้อมรองรับเรือขนาดใหญ่และดูแลนักท่องเที่ยวรวมถึงสามารถซ่อมบำรุงเรือยอซ์ตในระดับสากล, มีการวางแผนร่วมกันในการปรับปรุงและสร้างท่าเรือน้ำลึกในพื้นที่สำคัญ และแผนการขยายสนามบิน, การมอบเสื้อชูชีพโครงการยุทธศาสตร์ยกระดับความปลอดภัยทางน้ำ
กระทรวงวัฒนธรรม : ได้แก่ การจัดพิพิธภัณฑ์กลางคืน, การสร้างภาพยนตร์เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ภาพลักษณ์วัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยว, และการเตรียมจัดโรดโชว์ไปยังประเทศอังกฤษในช่วงกลางปีนี้
กระทรวงพาณิชย์ : ร่วมกันจัดโรดโชว์ไปยังเมืองมุมไบ ประเทศอินเดียเพื่อสร้างการรับรู้สินค้าท่องเที่ยวของไทยเนื่องจากชาวอินเดียจะชื่นชอบวีถีไทยเป็นพิเศษ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ : ร่วมจัดโครงการวิถีข้าว วิถีไทย เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรและกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : พัฒนาและวิจัยยางพาราแล้วนำมาปรับใช้ในวงการกีฬา เช่น ลู่วิ่ง ลานจักรยาน เป็นต้น เพื่อเพิ่มช่องทางการใช้ประโยชน์จากยางพาราของเกษตรกร
กระทรวงการต่างประเทศ/มหาดไทย : เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจลงตราแบบเข้าราชอาณาจักรได้หลายครั้ง (Multiple-Entry Visa) และ (2) ยกเว้นการตรวจลงตราให้แก่ผู้ที่ได้รับการตรวจลงตราจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย หรือกลุ่มประเทศยุโรป โดยคำนึงถึงความสมดุลในเชิงเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ
กระทรวงศึกษาธิการ : ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรพลศึกษาในโรงเรียน ได้แก่ การจัดชั่วโมงพลศึกษา อัตรากำลังครูพลศึกษา การจัดกิจกรรมกีฬา/ออกกำลังกายสำหรับนักเรียน รวมถึงการส่งเสริมองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา
ที่มา: http://www.thaigov.go.th