วันนี้ (13 มีนาคม 2558) นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ลงพื้นที่ชุมชนบ้านวัดกลาง ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง เพื่อพบปะเกษตรกรลูกค้าและติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล จากผลการประเมินศักยภาพกองทุนหมู่บ้านที่ใช้บริการทางการเงินกับ ธ.ก.ส.ที่ประเมินโดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ในพื้นที่จังหวัดตรังมีจำนวนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองรวมทั้งสิ้น 254 กองทุน อยู่ในระดับดีมาก (A) จำนวน 36 กองทุน ระดับดี (B) จำนวน 92 กองทุน ระดับพอใช้ (C) จำนวน 89 กองทุน และระดับที่ต้องปรับปรุง (D) จำนวน 37 กองทุน ส่วนของกองทุนหมู่บ้านที่อยู่ในขั้นพอใช้ และขั้นต้องปรับปรุงนั้น ธ.ก.ส.ร่วมกับ สทบ เพื่อสอบทานข้อมูล เตรียมความพร้อม ให้ได้รับการเพิ่มทุนระยะที่3 (กองทุนละ 1 ล้านบาท) โดยเร็วต่อไป
บ้านวัดกลาง หมู่ที่ 5 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง เป็นที่ตั้งของศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบธ.ก.ส. มีประชากรทั้งสิ้น 361 ครัวเรือน จำนวนประชากร 1,227 คน มีกิจกรรมกลุ่มต่างๆ ในชุมชน ประกอบไปด้วย กลุ่มออมทรัพย์คือกลุ่มออมทรัพย์และกลุ่มออมทรัพย์แม่บ้านเกษตรกร กลุ่มอาชีพผลิตเต้าเจี้ยวและกองทุนยา กิจกรรมเด่นคือกลุ่มอาชีพผลิตเต้าเจี้ยวนับเป็นการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดจากโอกาสที่ได้รับการอบรมความรู้จากเกษตรอำเภอ โดยรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็งทั้งการบริหารด้านระดมทุนและปันผลให้กับสมาชิก ยึดหลักธรรมาภิบาลเพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยจัดทำสุมดบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างชัดเจนให้สมาชิกกลุ่มรับทราบ เป็นการช่วยเหลือกันเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน มีสมาชิกจำนวน 54 คน ด้านกิจกรรมสำคัญของศูนย์เรียนรู้เป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน มีการจัดการดินอย่างเหมาะสม อนุรักษ์ดินและน้ำด้วยหญ้าแฝกตามแนวพระราชดำริฯ ปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ ปลูกพืชแบบผสมผสานเพื่อสร้างรายได้จากพืชหลากชนิด รวมทั้งส่งเสริมการปลูกพืชระบบวนเกษตรและอนุรักษ์พันธุ์ไม้พื้นเมือง เช่นต้นหยีและยางนา
ในโอกาสนี้ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ร่วมเวทีเสวนากับผู้แทนกองทุนหมู่บ้าน 6 แห่ง จากเขตพื้นที่จังหวัดสงขลา พัทลุง สตูล นครศรีธรรมราชและจากตรังจำนวน 2 ราย นับเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันเพื่อหาแนวทางในการพัฒนากองทุนหมู่บ้านตามนโยบายรัฐบาลเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับกทบ.อย่างยั่งยืน
สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบันมีกองทุนหมู่บ้านทั้งหมด 79,255 กองทุน วงเงินหมุนเวียนรวม 154,569 ล้านบาท ใช้บริการจาก ธ.ก.ส.จำนวน 39,120 กองทุน พัฒนาเป็นกองทุนหมู่บ้านชั้นดีจำนวน 33,643 กองทุน คิดเป็นร้อยละ 86 จากเดิมปี 2546 มีเพียงร้อยละ 24 และได้ยกระดับเป็นสถาบันการเงินชุมชนแล้ว 904 แห่ง โดย ธ.ก.ส.มีความพร้อมที่จะเข้าไปดำเนินการพัฒนาความรู้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่องซึ่ง ธ.ก.ส. มีเครือข่าย 1,029 สาขาทั่วประเทศและพนักงานในพื้นที่ชนบท 12,179 คน พร้อมเป็นที่ปรึกษาแก่กองทุน นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนคอมพิวเตอร์พร้อมโปรแกรมบัญชีแก่กองทุนหมู่บ้านทุกปี ปีละ 2,500 แห่ง รวมเป้าหมาย 12,500 แห่งและมีเป้าหมายยกระดับเป็นสถาบันการเงินชุมชน 3,000 แห่ง
สำนักประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ธ.ก.ส.
โทร 02 558 6100 ต่อ 6733, 6734 และ 6740
ที่มา : กระทรวงการคลัง
ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th