นรม. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ข่าวทั่วไป Wednesday March 18, 2015 13:49 —สำนักโฆษก

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบธุรกิจเกิดใหม่ดิจิทัล พร้อมบูรณาการโครงข่ายบรอดแบนด์ และศูนย์ข้อมูลภายในประเทศ รวมทั้งเตรียมการเปิดประมูล 4G ภายในเดือนสิงหาคม ศกนี้

วันนี้ (18 มี.ค.58) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 1/2558 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ ปรีดิยาธร เทวกุล และนายยงยุทธ ยุทธวงศ์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนตัวแทนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งนี้ โดยมีปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นกรรมการและเลขานุการ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญสรุปได้ดังนี้

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดการประชุมว่า เรื่องการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนเป็นการสร้างโอกาสเพื่อเข้าถึงการเรียนรู้ พร้อมยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศไทยให้ดีขึ้น อีกทั้งเป็นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเป็นการขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้รับทราบการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลแถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557 ซึ่งรัฐบาลมีทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลที่มุ่งเน้นยุทธศาสตร์การพัฒนาใน 5 ด้านคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านกายภาพ (Hard Infrastructure) โครงสร้างพื้นฐานด้านการบริการ (Service Infrastructure) โครงสร้างพื้นฐานด้านกฎหมาย กฎระเบียบ และมาตรฐาน (Soft Infrastructure) ด้านส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ (Digital Economy Promotion) และด้านการพัฒนาสังคมดิจิทัล (Digital Society)

นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบต่อแนวทางการเตรียมการในประเด็นสำคัญของแต่ละยุทธศาสตร์ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมของเศรษฐกิจดิจิทัล และได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนเพื่อการบูรณาการโครงข่ายบรอดแบนด์ของภาครัฐและหน่วยงานในกำกับของรัฐ เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการลงทุน และใช้ทรัพยากรโครงข่ายบรอดแบนด์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ อันจะนำไปสู่การให้บริการอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทุกพื้นที่ในระดับราคาที่เหมาะสม การเตรียมการเรื่องศูนย์ข้อมูลในประเทศ (Data Center) เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน และความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณภาครัฐ และยังเป็นการทำให้ศูนย์ข้อมูลเหล่านี้มีมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัย และมาตรฐานคุณภาพด้านการให้บริการ รวมถึงการส่งเสริมให้ภาคเอกชนที่จะเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลมีขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก

ตลอดจน การส่งเสริมการค้าผ่านสื่อดิจิทัลโดยส่งเสริมให้ SMEs ไม่ต่ำกว่า 20,000 ราย ปรับเปลี่ยนวิธีทำธุรกิจแบบออนไลน์เต็มรูปแบบ ภายใน 3 ปี รวมทั้งการสร้างธุรกิจใหม่ดิจิทัล (Digital Entrepreneurs) ไม่น้อยกว่า 300 ราย รวมถึงการสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างนวัตกรรมด้านบริการใหม่ธุรกิจใหม่ที่ตลาดต้องการรวมกันไม่ต่ำกว่า 1,500 ราย รวมทั้งการเร่งรัดปรับปรุงบริการของภาครัฐไปสู่ Smart Service เพื่ออำนวยความสะดวกต่อประชาชนมากที่สุด กล่าวคือการเป็นการให้บริการโดยไม่ต้องแนบสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งจะมีบริการจากกระทรวงนำร่อง 7 กระทรวงในระยะแรก จำนวน 100 บริการ ก่อนที่จะมีการขยายผลการดำเนินงานไปสู่หน่วยงานอื่น ๆ และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มผู้ด้อยโอกาส เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษาและการเรียนรู้ รวมทั้งจัดเตรียมการพัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตแบบเปิด Massive Open Online Course (MOOC) พร้อมการเดินหน้าเพื่อเตรียมการประมูล 4G ภายในเดือนสิงหาคม 2558 ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวทันโลกในด้านดิจิทัล

ในตอนท้ายการประชุม นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการฯ ที่ร่วมมือกันในการช่วยลดความขัดแย้ง พร้อมมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ประเทศไทยได้เดินไปข้างหน้าสู่สังคมที่ก้าวไกลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมากยิ่งขึ้น

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

พัณณ์วรินทร์ อินโท่โล่ รายงาน

ดวงใจ กล่อมจิตต์ ตรวจ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ