พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการเป็นประธานการแถลงข่าวและประกาศเจตนารมณ์เรื่อง ‘คนพิการต้องมีงานทำ ทำงานในชุมชน ทางเลือกใหม่ของการจ้างงาน’ ณ ห้องฝึกอบรม ชั้น 11 อาคารสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 กระทรวงแรงงาน ว่า จากการที่กระทรวงแรงงานส่งเสริมให้คนพิการได้ทำงาน ซึ่งกฎหมายกำหนดให้สถานประกอบกิจการที่มีการจ้างงาน 100 คนต้องจ้างงานคนพิการ 1 คน แต่ส่วนหนึ่งก็หาคนพิการเข้าไปทำงานในบริษัทไม่ได้ แต่บางคนเมื่อหางานทำให้ได้แล้วก็อยู่ได้ไม่นานเนื่องจากการเดินทางลำบาก ค่าใช้จ่ายสูง ชีวิตในสังคมแตกต่างจากคนทั่วไป สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธินวัตกรรมเพื่อสังคมได้ช่วยคิดสร้างสรรค์โครงการว่าให้คนพิการได้ทำงานในชุมชน เพื่อหางานทำที่เหมาะสมในชุมชน ซึ่งงานตรงนี้จะสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่มีภาคเอกชน เนื่องจากเขาเป็นคนให้ค่าตอบแทนในการจ้างตำแหน่งงาน โดยมีผู้ประกอบการ 23 บริษัทที่เห็นความสำคัญและให้ความร่วมมือทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นได้ เบื้องต้นทำให้เกิดการจ้างงาน 200 คน ซึ่งเป็นการทำงานในชุมชนของตนเอง ทำให้ผู้พิการเกิดศักยภาพมีศักดิ์ศรีของตนเองที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในชุมชนเพียงอย่างเดียว เป็นการทำประโยชน์ให้สังคมที่เป็นผู้พิการแต่มีศักยภาพในการดูแลคนอื่นได้ เกิดความภาคภูมิใจ ซึ่งจากนี้จะขยายต่อไปให้มากที่สุด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า จะยกระดับเรื่องนี้เสนอให้เป็นงานในระดับรัฐบาล โดยมีกระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะร่วมทำงานร่วมกัน และจะนำเรียนให้นายกรัฐมนตรีรับทราบเพื่อแต่งตั้งให้มีคณะทำงานขับเคลื่อนในระดับรัฐบาลเพื่อขยายการดำเนินการให้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากตัวเลขผู้พิการในวัยแรงงานมากกว่า 7 แสนคน แต่ขณะนี้มีผู้พิการที่มีงานทำยังไม่ถึง 3 แสนคน ถ้าเกิดการล่าช้าจะทำให้สูญเสียโอกาสได้
นางสาวอรอนงค์ ทองยอด ตัวแทนผู้พิการ กล่าวว่า ตนรู้สึกภูมิใจที่ได้ยินคำว่าการจ้างงานผู้พิการ คำว่าภาระของสังคมจะไม่ได้ยินในหูของผู้พิการอีกต่อไป ตนเหมือนได้เกิดใหม่ เหมือนได้อยู่โลกใบใหม่ ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น มีแสงสว่างส่องลงมาให้พวกตน ได้ยืนหยัด ได้สู้เพื่อให้โลกได้เห็นว่า ความพิการไม่ได้เป็นภาระเลยและต่อไปนี้เธอจะได้ไม่มีใครมาดูถูกเหยียดหยามในศักดิ์ศรีของผู้พิการอีกต่อไป
นายสายัณ ส่งธนู ตัวแทนทหารผู้พิการ จากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กล่าวว่า ในอดีตตนเคยเป็นทหารป้องกันประเทศโดนระเบิดจนขาขาด จากนั้นมารักษาตัวและปฏิบัติงานที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก จากนั้นมา 3 ปีบริษัทซีพีออลล์ได้เข้ามาประสานเพื่อต้องการให้ทหารผ่านศึกเข้าไปร่วมโครงการพิเศษในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าของเซเว่น ในนามตัวแทนผู้พิการทหารผ่านศึกจึงขอขอบคุณหลายๆ บริษัทที่ได้เข้ามาดูแลผู้พิการตรงนี้ ผู้พิการไม่ต้องการให้ใครเข้ามาแบกรับภาระความพิการ อยากให้สังคมเปิดโอกาสจะดีกว่า เนื่องจากศักยภาพของผู้พิการยังมีอีกมากมาย
นายเชาวลิต หาญโงน ตัวแทนผู้พิการ ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์ กล่าวว่า รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าที่ได้นำความรู้มาถ่ายทอดให้กับนักเรียนในชุมชน และภาคภูมิใจที่มีนักเรียนเรียกตนเองว่า ‘ครู’
นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเบทาโกร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้พิการสามารถทำงานได้มากขึ้น สามารถทำงานในสิ่งที่ตนเองรู้สึกว่ามีประโยชน์ เชื่อว่ามีสถานประกอบการหลายแห่งที่อยากจะทำเรื่องนี้ให้ประสบความสำเร็จ
กลุ่มงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
“กระทรวงแรงงาน บริการด้วยใจ เพื่อคนไทยมีงานทำ”
ที่มา: http://www.thaigov.go.th