วันนี้ (27 มี.ค. 58) เวลา 11.00 น. ณ บริเวณชายหาดหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมและดูการจัดระเบียบชายหาดหัวหินตามนโยบายคืนความสุข ให้คนไทยของรัฐบาล พร้อมพบปะกับผู้ค้าชายหาดและทักทายประชาชนที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกัน เอง
ปัจจุบันชายหาดหัวหิน มีผู้ประกอบทั้งหมด 118 ราย แบ่งผู้ประกอบการออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.บริเวณสะพานปลาถึงศาลเจ้าแม่ทับทิม จำนวน 52 ราย 2.บริเวณศาลเจ้าแม่ทับทิมถึงทางลงทะเลโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ หัวหิน จำนวน 22 ราย และ 3.บริเวณชายหาดตั้งแต่หน้าโรงแรมลักษสุภาถึงชายหาดตะเกียบ หัวดอนหาดทรายน้อย เขาเต่า จำนวน 44 ราย สภาพปัญหาโดยรวมของชายหาดหัวหินส่วนใหญ่มาจากผู้ประกอบการ ดังข้างต้นทำการบุกรุกสร้างอาคาร รุกล้ำบนชายหาด ปัญหาการเอาเปรียบผู้บริโภคจำหน่ายราคาสูงกว่าทั่วไป และปัญหาเรื่องความสะอาด รวมถึงปัญหาความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยในการวางเตียงผ้าใบ ร่ม เก้าอี้ และโต๊ะอาหาร
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้มีการประชุมผู้ประกอบการเพื่อทำความเข้าใจ กำหนดแนวทางให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย กำหนดกฎ กติกา ข้อตกลงในการดำเนินกิจกรรม กิจการบนชายหาดหัวหิน พร้อมกับกำหนดราคาอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค พร้อมกำหนดมาตรการทางกฎหมายหากมีการจำหน่ายราคาเกินที่กำหนด รวมถึงกำหนดแนวทางประกอบกิจการ เช่น ลดจำนวนพื้นที่ประกอบการ ลดจำนวนโต๊ะ ร่ม และเก้าอี้ ห้ามปลูกสร้างอาคารถาวรบนพื้นที่ชายหาดอย่างเด็ดขาด แต่อนุโลมเป็นลักษณะชั่วคราวสามารถเก็บรื้อถอนได้วันต่อวัน นอกจากนี้ได้กำหนดให้ทุกวันพุธ ผู้ประกอบทั้งหมดหยุดประกอบกิจการ เพื่อคืนธรรมชาติให้กับชายหาด และร่วมกันทำความสะอาดชายหาด ในกรณีของผู้ประกอบการประกอบการในบริเวณที่ดินของคนอื่น โดยไม่ได้รับการยินยอม ได้แก้ไขปัญหาโดยจัดหาพื้นที่ประกอบการใหม่ โดยให้ย้ายไปประกอบกิจการที่หาดหัวดอน รวมทั้งสิ้น 51 ราย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับตอนหนึ่งว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาพบปะประชาชนพร้อมนำพาหัวใจของรัฐบาล และรัฐมนตรีมามอบให้กับประชาชน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการแก้ไขปัญหารายได้ และที่ดินทำกินของประชาชน รวมถึงจะพิจารณาสร้างมหาวิทยาลัยในอำเภอหัวหิน เน้นให้เป็นมหาวิทยาลัยเศรษฐกิจพอเพียง เรียนจบแล้วมีงานทำประกอบอาชีพได้ สำหรับพื้นที่เศรษฐกิจจะดำเนินการจัดระเบียบใหม่เพื่อวางแนวทางให้เป็นระบบ ทั้งนี้ รัฐบาลได้วางแผนทำรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพมหานครมายังอำเภอหัวหิน ซึ่งคาดว่าให้แล้วเสร็จภายในเวลา 5 – 10 ปี กรณีการทำประมงในพื้นที่ทะเลขอให้เรือทุกลำติดตั้งระบบจีพีเอส เพื่อติดตามกรณีประสบอุบัติเหตุ และให้กำหนดชื่อเรือลำละ 1 ชื่อห้ามซ้ำกัน โดยขอให้ทุกคนอดทนให้เวลารัฐบาลแก้ไขปัญหา และต้องร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศมีความมั่งคง เกิดความมั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินพบปะกับพูดคุยกับผู้ประกอบการร้านค้าชายหาดหัวหิน โดยมีนางสาวกลนี ฤทธิยงค์ แม่ค้าร้านผลไม้เป็นตัวแทนกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้จัดระเบียบชายหาดหัวหินให้มีความเป็นระเบียบ สามารถค้าขายได้อย่างสบายใจ พร้อมทั้งขอความอนุเคราะห์นายกรัฐมนตรีให้ช่วยเรื่องการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าแบบถาวร และน้ำประปา โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวรับปาก และมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับไปดำเนินการต่อไป
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th