นายกรัฐมนตรีขอบคุณประชาชนชาว จ.ประจวบฯ ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีและให้ความร่วมมือในการจัดระเบียบชายหาดให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ข่าวทั่วไป Friday March 27, 2015 13:42 —สำนักโฆษก

วันนี้ (27มี.ค.58) เวลา 17.30 น. ณ สถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก สวนสนประดิพัทธ์แห่งที่ 2 อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่1/2558 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงว่า ดีใจที่ได้มาประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ที่สวนสนประดิพัทธ์แห่งที่ 2 อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมขอขอบคุณประชาชนชาวอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และให้กำลังใจรัฐบาลในการบริหารประเทศ ส่วนเรื่องต่าง ๆ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสนอมานั้น ได้มีการนำเข้าสู่การพิจารณาต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว เช่น เรื่องการดูแลที่ทำกิน ซึ่งจะมีการนำเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายจัดสรรที่ดิน รวมทั้งมีแนวคิดที่จะสร้างมหาวิทยาลัยในบริเวณพื้นที่ว่างเปล่าอีกแห่งหนึ่ง

สำหรับเรื่องการจัดระเบียบชายหาดนั้น นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณผู้ประกอบการทุกคนที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และรัฐบาลในการดำเนินการดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยผู้ประกอบการร้านค้าที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ต่างเข้าใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว และได้ให้แนวทางกับกระทรวงมหาดไทยในการดูแลและดำเนินการเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยในอนาคตอาจจะมีการพิจารณาผ่อนผันให้สอดคล้องและมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่

อย่างไรก็ตาม จากได้พบปะพูดคุยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีและได้รับการชื่นชมว่า สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยมีความสวยงาม เพราะฉะนั้นคนไทยต้องรักกัน ไม่สร้างความแตกแยก แต่ควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อประเทศจะได้เดินไปข้างหน้าและปฏิรูปประเทศต่อไปได้

ส่วนกรณีที่ผลการตรวจสอบจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอเคโอ ที่ตรวจพบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยเกี่ยวกับกระบวนการรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ ทางเจซีเอบีจึงไม่อนุมัติให้ขยายหรือเปลี่ยนบริการขนส่งทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มท่าอากาศยานหรือเปลี่ยนเครื่องบินที่จะบินไปยังญี่ปุ่น ซึ่งเรื่องดังกล่าวทาง ไอเคโอ ได้มีการแจงเตือนมาหลายครั้งแล้ว เพราะมีปัญหาไม่ได้มาตรฐานทั้งเรื่องโครงสร้าง ความปลอดภัย ซึ่งกติกาในเรื่องดังกล่าวเหล่านี้ก็ต้องมีการชี้แจงทาง ไอเคโอ ว่าเรารับรองเรื่องความปลอดภัย รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ก็กำลังเร่งดำเนินการอยู่ เช่นเดียวกับเรื่องการค้ามนุษย์ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และกำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดได้เกิดขึ้นมานานแล้ว ก่อนที่รัฐบาลชุดปัจจุบันจะเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งรัฐบาลก็กำลังดำเนินการและขอความร่วมมือสื่อมวลชนได้ช่วยทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วย

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่กรมการบินพลเรือนญี่ปุ่น (เจซีเอบี) สั่งห้ามเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลท์) จากไทยบินเข้าญี่ปุ่นว่า เป็นการห้ามเที่ยวบินที่ไทยขอเพิ่มไป โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศประสานเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งทั้งประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นก็ความสัมพันธ์อันดีต่อกันมายาวนาน เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดเรื่องอะไรก็ตาม คงต้องการช่วยเหลือซึ่งกันและกันบ้าง

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องการยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีดำเนินการเรื่องนี้และไม่ได้มีการนำเรื่องนี้เข้าหารือที่ประชุมครม.แต่อย่างใด ส่วนการใช้กฎหมายใหม่แทนกฎอัยการศึกนั้นก็คือคำสั่งของ คสช. ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพราะคำสั่งของ คสช.เหนือทุกอย่าง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเตรียมการที่จะใช้แทนกฎอัยการศึก โดยจะพิจารณาสถานการณ์ต่าง ๆ ประกอบการดำเนินการ เพื่อให้สามารถทำงานได้เหมือนเดิม ทั้งการดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ละเมิดซึ่งกันและกัน ไม่ขยายทำให้เกิดความรุนแรงวุ่นวายในการบริหารประเทศก็จำเป็นต้องใช้ อย่างไรก็ตามคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย โปรดเกล้าฯ

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ