คณะรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการ “นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อ SMEs และเกษตรกร” ผลงานเด่นฝืมือคนไทยรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ข่าวทั่วไป Friday March 27, 2015 13:44 —สำนักโฆษก

วันนี้ (27มี.ค.58) เวลา 17.30 น. ณ สถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก สวนสนประดิพัทธ์แห่งที่ 2 อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการ “นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อ SMEs และเกษตรกร” ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ 14 กระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดขึ้น โดยได้คัดสรรผลงานโดดเด่นฝีมือคนไทยมาจัดแสดง แบ่งการจัดนิทรรศการออกเป็น 7 โซน ดังนี้

โซนที่ 1 เกษตรและชุมชน จัดโดยกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งได้นำนวัตกรรมเครื่องฆ่ามอดข้าวด้วยคลื่นวิทยุระดับอุตสาหกรรม โดยใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุกำจัดมอดและแมลงโดยไม่สร้างความเสียหายต่อเมล็ดข้าว นวัตกรรมหุ่นยนต์หยอดข้าวอัจฉริยะ ทำให้ต้นข้าวเรียงตัวเป็นแถวและกำหนดจำนวนเมล็ดต่อหลุมหยอดได้ ใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 1.5 กิโลกรัมต่อไร่ ตลอดจนนวัตกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ฝนหลวงข้าว 12 สายพันธุ์ พันธุ์ปาล์มน้ำมัน ชีวภัณฑ์ไส้เดือนฝอย ถนนและบล็อกปูพื้นจากยางพารา ขณะที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ได้นำอากาศยานไร้คนขับเพื่อการทำแผนที่ทางการเกษตรรายละเอียดสูงและแผนที่แบบ 3 มิติ มาจัดแสดง

โซนที่ 2 น้ำ นำเสนอแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ตั้งแต่การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค การสร้างความมั่นคงน้ำภาคการผลิต การจัดการอุทกภัย การจัดการคุณภาพน้ำ การฟื้นฟูป่าต้นน้ำและการพังทลายของดิน รวมทั้งกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและเกษตร ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์บริการ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี นำการพัฒนาเรืออัตโนมัติสำหรับงานสำรวจและเก็บข้อมูลทางด้านสิ่งแวดล้อมมาจัดแสดง โดยพัฒนารูปแบบและกลไกของเรือขนาดเล็กให้สามารถบรรทุกเครื่องมือสำรวจตรวจวัดคุณภาพน้ำ

โซนที่ 3 ระบบราง กระทรวงคมนาคม นำเทคโนโลยีการใช้ยางพารามาผสมกับแอสฟัสต์ซีเมนต์สำหรับก่อสร้างเป็นผิวทางและผสมกับแอสฟัสต์อิมัลชันสำหรับยารอยแตกเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพและเพิ่มความฝืดให้ผิวทาง ขณะที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ร่วมกับกลุ่มผู้ออกแบบพัฒนาระบบเครื่องกั้นรถไฟอัตโนมัติ โดยใช้เครื่องเซนเซอร์นับล้อตรวจจับขบวนรถไฟและส่งสัญญาณไฟเปิด/ปิดเครื่องกั้นรถไฟฟ้าอัตโนมัติ รวมทั้งยังมีการนำเทคโนโลยีสำหรับไฟฟ้า คือ ปุ่มหยุดรถไฟฉุกเฉิน EMP สำหรับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใช้กดเพื่อหยุดไม่ให้รถไฟฟ้าเข้ามาที่สถานีในกรณีเกิดเหตุการณ์ผู้โดยสารตกจากชานชาลาลงไปในรางวิ่งรถไฟฟ้ามาจัดแสดง

โซนที่ 4 การแพทย์และสมุนไพร มีการนำเสนอเก้าอี้ทำฟันสำหรับคนพิการ พัฒนาโดยบริษัทไทยเด็นทอลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยการสนับสนุนของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ขณะที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ กระทรวงสาธารสุข นำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง บัว ไผ่ ข้าว มานำเสนอและจัดแสดง

โซนที่ 5 ความมั่นคง พลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยกระทรวงกลาโหมได้นำนวัตกรรมการอากาศยานไร้คนขับมาจัดแสดง ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวสามารถบินได้ด้วยระบบอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้นักบินประจำการ สามารถใช้ปฏิบัติภารกิจด้านข่าวกรอง การเฝ้าตรวจ การค้นหาเป้าหมายและการลาดตระเวนได้ รวมทั้งมีการนำเครื่องสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ใช้ป้องกันการจุดชนวนระเบิดในระยะไกล และได้มีการนำไปใช้ในการรักษาความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วมาจัดแสดง นอกจากนั้นได้จัดแสดงนวัตกรรมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมมา คือ ระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพ

โซนที่ 6 ท่องเที่ยววิถีไทย มีการจัดนิทรรศการท่องเที่ยววิถีไทยที่รวมเทศกาลสงกรานต์ นิทรรศการ 12 เมือง ต้องห้าม...ห้ามพลาด ได้แก่ ลำปาง น่าน เพชรบูรณ์ เลย บุรีรัมย์ จันทบุรี ตราด ราชบุรี สมุทรสงคราม ชุมพร นครศรีธรรมราช และตรัง โดยมีการประยุกต์ใช้คิวอาร์โค้ดในการให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ตลอดจนนิทรรศการว่าวไทย 4 ภูมิภาค ซึ่งเป็นภูมิปัญญาไทย และนวัตกรรมว่าวที่ผลิตโดยคนไทย นิทรรศการ Google Map Street View โดยนำเทคโนโลยีการถ่ายภาพ 360 องศา มาประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว

โซนที่ 7 SMEs และการส่งเสริมการส่งออก มีการจัดแสดงเครื่องนวดข้าวที่มีประสิทธิภาพในการเก็บเกี่ยวในพื้นที่นาหล่ม ลดการสูญเสียข้าวรวมไม่เกิน 3% ประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนในการผลิต ถุงมือผ้าเคลือบยางพาราเอนกประสงค์ รวมทั้งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) และธนาคารออมสิน ที่เป็นกลไกส่งเสริม SMEs รับขึ้นทะเบียน ตลอดจนการบริการต่าง ๆ เช่น สินเชื่อเพื่อนวัตกรรมด้วย

นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้จัดกิจกรรมโดยนำกลยุทธ์การพัฒนา SMEs ไทยด้วยแนวคิดนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ ใน 3 ด้าน ได้แก่ นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมในกระบวนการผลิต และนวัตกรรมการบริหารจัดการ เพื่อเตรียมพร้อมผู้ประกอบการสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนรองรับผู้บริโภคกว่า 600 ล้านคนทั่วอาเซียน อาทิ โครงการส่งเสริมนวัตกรรมอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ โครงการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต โครงการเชื่อมโยงงานวิจัยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ โครงการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชน กว่า 70 โครงการ กิจกรรมที่สอดแทรกแนวคิดการนำนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ไปใช้ในการเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการและพฤติกรรมการบริโภคที่หลากหลาย รวมทั้ง กระทรวงอุตสาหกรรมยังได้จัดแสดผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและสามารถประสบความสำเร็จในการส่งออกตลาดต่างประเทศซึ่งพัฒนาโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เช่น ข้าวต้มมัดสำเร็จรูปพร้อมทานเก็บได้นาน 1 ปี หมอนยางพาราเพื่อสุขภาพช่วยการไหลเวียนของโลหิต และผลิตภัณฑ์เซรามิกลดการหดตัวของดิน เป็นต้น

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมพร้อมสอบถามถึงกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ที่นำมาจัดแสดงครั้งนี้ด้วยความสนใจ

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ