มท.1 ลงพื้นที่ภาคอีสานติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง - วาตภัย และตรวจความคืบหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย

ข่าวทั่วไป Wednesday March 25, 2015 15:16 —สำนักโฆษก

วันนี้ (25 มี.ค. 58) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะลงพื้นที่จังหวัดหนองคายและจังหวัดอุดรธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและวาตภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และตรวจเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย โดยในเวลา 09.00 น. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเส้นทางขนส่งสินค้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย – ลาว และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ณ สถานีรถไฟนาทา เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมของจังหวัดหนองคายทั้งในเรื่องของพื้นที่ การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุน One Stop Service (OSS) ซึ่งจังหวัดหนองคายได้มีการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านอย่างเต็มที่

จากนั้นเดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ในพื้นที่ตำบลปะโค อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี และดูการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยการนำรถสูบส่งระยะไกล ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนำมาให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยการสูบ – ส่งน้ำระยะไกล จากแหล่งน้ำระบายตามท่อสายยางเพื่อนำน้ำมาแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

ช่วงบ่าย เวลา 14.00 น. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ เดินทางถึงศาลากลางจังหวัดอุดรธานี เพื่อเป็นประธานการประชุมติดตามงานสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ผ่านทางระบบวีดีทัศน์ทางไกล ( Video Conference) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายในประเด็นสำคัญ ดังนี้ เรื่องการแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2558 สั่งการให้ทุกจังหวัดบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่วางแผนการจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคให้ประชาชนอย่างเพียงพอ อย่าให้เกิดกรณีการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคโดยเด็ดขาด กรณีน้ำเพื่อการเกษตรเน้นย้ำให้ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเต็มที่ และกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นหลักในการบูรณาการในพื้นที่ และมอบภารกิจให้กับอำเภอและท้องถิ่นทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ

การแก้ไขปัญหาพายุฤดูร้อนที่ทำให้เกิดฝนตกและลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ในขณะนี้ จนเป็นเหตุให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ให้จังหวัดที่ประสบเหตุวาตภัยเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่อย่าให้ล่าช้า โดยต้องดำเนินการอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมในส่วนของจังหวัดที่อยู่ในข้อมูลการแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง เพื่อเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ตื่นตระหนก

สำหรับสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ในกรณีพื้นที่ป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ ให้ประสานการปฏิบัติร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการบังคับใช้กฎหมาย โดยห้ามไม่ให้มีการเผาในเขตป่าโดยเด็ดขาด และเสริมมาตรการป้องปรามโดยการเพิ่มกำลังและความถี่ในการลาดตระเวน เพื่อลดการบุกรุกพื้นที่ป่าให้ได้ สำหรับในพื้นที่เกษตรให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรณรงค์สร้างความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกรให้งดการเผาและใช้วิธีไถกลบวัสดุทางการเกษตรแทน รวมทั้งการสร้างความตระหนักและการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน

การเตรียมการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ เน้นการสร้างความปลอดภัยทางถนนให้เป็นรูปธรรมชัดเจน โดยการบังคบใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง การควบคุมพฤติกรรมเสี่ยง ของคนขับรถทั้งเรื่องการใช้ความเร็ว เมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย และการสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยนำมาตรการองค์กร ชุมชนมาเสริมในการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งในปีนี้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้กำหนดแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2558 ภายใต้ชื่อ “สติ วินัย น้ำใจ ปลอดภัยสงกรานต์ สืบสานประเพณีไทย” เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนได้เดินทางสัญจรอย่างปลอดภัยและความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังได้กำชับให้ทุกจังหวัดเร่งขับเคลื่อนงานสำคัญตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย อาทิ การปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นเจ้าภาพร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ