กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ สมาคมธนาคารไทย จัดงานแถลงข่าวโครงการ “ของขวัญสงกรานต์ให้ประชาชน” ส่งมอบของขวัญชิ้นพิเศษให้ชาวไทยทั่วประเทศ ฟรีค่าธรรมเนียมการกด ATM ข้ามเขตทั่วไทย ในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 13 - 19 เมษายน 2558 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศและกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายต่อเนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่สากลที่ผ่านมา
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.กก. กล่าวถึงนโยบายรัฐบาลที่ต้องการมอบของขวัญเพื่อสร้างความสุขให้แก่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง ซึ่งช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมานับว่าประชาชนให้ความสนใจโครงการ “ของขวัญปีใหม่ ใช้บริการฟรีค่าธรรมเนียมกด ATM ข้ามเขตทั่วไทย” ช่วงวันที่ 31 ธันวาคม 2557 – 4 มกราคม 2558 โดยมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ดังนั้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2558 ที่กำลังจะมาถึง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ สมาคมธนาคารไทย จึงได้จัดให้มีโครงการลักษณะนี้ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 13-19 เมษายน 2558 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศและ กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะเกิดเม็ดเงินใช้จ่ายภายในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้มากกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะประหยัดเงินในกระเป๋าประชาชนได้ถึง 100 ล้านบาท
นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย ได้กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างกลุ่มธนาคารไทย กับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าโครงการ “ของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน” เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ชมรมธุรกิจบริการ ATM ได้สรุปรายงานข้อมูลว่ามียอดรายการถอนเงินสดข้ามเขตมากถึง 2,590,248 รายการ คิดเป็นเงิน 12,067,025,620 บาท และเป็นการทำธุรกรรมจากเครื่องรับฝากเงินสดอัตโนมัติถึง 268,000 รายการ หรือ 2,090,426,330 บาท สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมให้ประชาชนในช่วงวันปีใหม่ที่ผ่านมามากถึง 71,456,200 บาท จึงนับว่าโครงการประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ดังนั้นวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ทางสมาคมธนาคารจึงร่วมแสดงเจตนารมณ์กับกระทรวงการท่อ งเที่ยวและกีฬาที่จะสนับสนุนโครงการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายการถอนเงินสดข้ามเขตผ่านเครื่องถอนเงินสด อัตโนมัติ (ATM) ของธนาคารเจ้าของบัตร รวมทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมฝากเงินสดข้ามเขตภายในธนาคารเดียวกัน ผ่านเครื่องรับฝากเงินอัตโนมัติ (CDM) ในช่วงหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 13 - 19 เมษายน 2558 เวลา 23.00 น.
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.กก. และ นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ สมาคมธนาคารไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2558 เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น และมีการใช้สอยได้อย่างสะดวก ตามโครงการไทยเที่ยวไทยในปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 โดยได้จัดเตรียมสำรองเงินสดในตู้ ATM ให้เพียงพอกับการใช้บริการของประชาชน พร้อมประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ผ่านหน้าจอ ATM ทุกธนาคารเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น
สำหรับสถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 26 มีนาคม 2558)
1. สถานการณ์นักท่องเที่ยวมีนาคม 2558 ในระหว่างวันที่ 1 – 24 มีนาคม 2558 มีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวประเทศไทย 2,001,819 คน ขยายตัวร้อยละ 25.8 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ จีน มาเลเซีย และลาว ตามลำดับ สำหรับแนวโน้มนักท่องเที่ยวตลอดทั้งเดือนมีนาคม 2558 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยจะขยายตัวไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ถึง 23 ซึ่งสูงกว่าเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 20
2. สถานการณ์ท่องเที่ยวเมืองหลักกุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งประกอบด้วย กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่กระบี่ และสมุย จากการสำรวจอัตราการเข้าพักแรมในสถานพักแรมต่าง ๆ พบว่า โดยภาพรวมสถานพักแรมในเมืองท่องเที่ยวหลักมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย ร้อยละ 78 และขยายตัวร้อยละ 6.2 โดยภูเก็ตมีอัตราการเข้าพักสูงสุดเท่ากับร้อยละ 87.07 และกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีอัตราการเข้าพักเติบโตสูงสุด (ขยายตัวร้อยละ 12.2) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการขยายตัวของนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนในเมืองสำคัญ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่ ขณะที่กระบี่ และสมุย เติบโตจากนักท่องเที่ยวยุโรปเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม กรุงเทพฯ ยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย โดยมีผู้เข้าพักกว่า 2.5 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าภูเก็ตที่เป็นอันดับที่ 2 กว่าเท่าตัว
3. สถานการณ์ท่องเที่ยวเมืองรองกุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งประกอบด้วย ตราด นครศรีธรรมราช เพชรบูรณ์ ตรัง ชุมพร จันทบุรี เลย น่าน บุรีรัมย์ ลำปาง ราชบุรี และสมุทรสงคราม จากการสำรวจอัตราการเข้าพักในสถานพักแรมต่าง ๆ พบว่า โดยภาพรวมสถานพักแรมในเมืองท่องเที่ยวรองมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 58 โดยตราดเป็นเมืองที่มีอัตราการเข้าพักสูงสุดเท่ากับร้อยละ 70.98 นอกจากนี้ โดยภาพรวมสถานพักแรมในเมืองท่องเที่ยวรองขยายตัวร้อยละ 5.6 โดยสมุทรสงครามเป็นเมืองที่อัตราการเข้าพักขยายตัวสูงสุด (ขยายตัวร้อยละ 18.7) สำหรับปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นการขยายตัวในเมืองท่องเที่ยวรองได้แก่ การส่งเสริมกิจกรรมด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ ตามโครงการ 12 เมือง ต้องห้าม...พลาด ของหน่วยงาน ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th