โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดงานฯ ว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายด้านสังคม โดยตั้งเป้าหมายให้เกิด “ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ด้วยการ “ลดเหลื่อมล้ำ ค้ำจุนกัน และสร้างสรรค์สังคม” โดยมีเด็กและเยาวชน เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่ต้องได้รับการส่งเสริมสนับสนุนให้มีสุขภาวะที่ดี ควบคู่กับการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพที่เหมาะสม เพื่อให้เป็นพลเมืองมีความใฝ่รู้ และเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม จึงขอให้ผู้ปกครอง ครู ชุมชน ตลอดจนทุกภาคส่วน ได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์พื้นที่เชิงบวก เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เกิดการเรียนรู้ มีทักษะชีวิต และมีภูมิคุ้มกันที่ดี
การดำเนินงานยุทธศาสตร์ เมือง 3 ดี คือ สื่อดี พื้นที่ดี และภูมิดี ถือเป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพและมีพลัง เพราะหัวใจสำคัญคือให้เด็กและเยาวชนเป็นผู้นำ เป็นผู้สร้างสรรค์สื่อ ให้เด็กเรียนรู้จากชุมชน ดึงภูมิปัญญาและศักยภาพของชุมชนเข้ามาร่วมกันจัดพื้นที่สร้างสรรค์ให้กับเด็กเยาวชนและครอบครัว อีกทั้งจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงและปัญหาในชุมชน อันจะนำไปสู่การพัฒนาชุมชนในหลายมิติ
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชม โครงการ “รองเมือง รองยิ้ม” ว่า จะสามารถเปลี่ยนแปลงชุมชนให้ดีขึ้น การร่วมมือ ร่วมใจของทุกชุมชนและทุกจังหวัดในลักษณะเช่นนี้ ย่อมจะสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนให้กับสังคมได้เป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ และพร้อมสนับสนุนให้เกิดเป็นนโยบายระดับท้องถิ่น ตลอดจนส่งเสริมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกันพัฒนายุทธศาสตร์เมือง 3 ดี ให้ครอบคลุมและขยายในระดับชาติต่อไป
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีเปิดโครงการฯ โดยร่วมแสดงสัญลักษณ์ความร่วมมือในการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ ด้วยการเติมปากรูปรอยยิ้มให้กับภาพเด็กในภาพเมือง 3 ดีวิถีสุข ก่อนเดินเยี่ยมชมนิทรรศการและกิจกรรมสำหรับเด็กและครอบครัว ของ 4 ชุมชนย่านถนนรองเมือง ได้แก่ ชุมชนวัดดวงแข ชุมชนตรอกสลักหิน ชุมชนแฟลตรถไฟ และชุมชนจรัสเมือง
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th