สำหรับผลการดำเนินงาน “วิถีข้าว วิถีไทย” สรุปสาระสำคัญดังนี้ 1) ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้าว เช่น การเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์กับการพัฒนาข้าวไทย ความหลากหลายทางชีวพันธุ์ คุณค่าทางโภชนาการ การแปรรูปเพิ่มมูลค่าและนวัตกรรมข้าวไทย การแสดงวิถีข้าวและภูมิปัญญาการปลูกข้าวของ 4 ภาค 2) โชว์ชิมข้าวศาลาข้าวไทย ซึ่งเป็นรูปแบบการเชื่อมโยงตลาดของสินค้าข้าวที่มีคุณภาพ มีความโดดเด่นและหลากหลายจากกลุ่มเกษตรกรที่กรมการข้าวได้พัฒนาเกษตรกรให้มีการรวมกลุ่มผลิตสินค้าข้าวคุณภาพตลาดห่วงโซ่ และการเผยแพร่ความรู้ด้านต่าง ๆ อาทิ คุณค่าทางโภชนาการของข้าว การแปรรูปข้าว การออกแบบตราสัญลักษณ์สินค้าข้าวและการบรรจุภัณฑ์ วิธีการหุงข้าว การโชว์ชิมข้าวหลากหลายพันธุ์จากภูมิภาคต่าง ๆ จำนวน 20 สายพันธุ์
3) การฝึกอาชีพเสริมรายได้จากการแปรรูปข้าว 4) สาธิตการปรุงอาหารเมนูเด็ดต่าง ๆ โดยเชฟชื่อดัง 5) การออกร้านจำหน่ายสินค้า อาทิ ร้านจำหน่ายสินค้าข้าวจากชุมชนมากกว่า 22 ชนิดพันธุ์ข้าว จำนวน 80 ร้าน จำแนกเป็นกลุ่มเกษตรกรจากกรมการข้าว 53 ร้าน กลุ่มสหกรณ์การเกษตรจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ จำนวน 20 ร้าน ฯลฯ 6) การแสดงวัฒนธรรมและความบันเทิง ซึ่งเป็นกิจกรรมแสดงบนเวทีกลางเกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรม การละเล่นที่เกี่ยวข้องกับข้าวและวิถีชีวิตไทยภาคต่าง ๆ 7) การสร้างมูลค่าตลาดสินค้าข้าวเฉพาะและการเจรจาธุรกิจการค้า ซึ่งงานวิถีข้าว วิถีไทย มีมูลค่าการซื้อขายสินค้าสะสม จนถึงวันนี้ ประมาณ 7 ล้านบาท มีผู้สนใจเข้าร่วมชมงาน จำนวน ประมาณ 48,000 คน และก่อให้เกิดการเจรจาซื้อขายสินค้าระหว่างร้านค้ากลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการ จำนวน 10 ร้าน มีมูลค่า 800,000 บาท
ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวประชาชนที่เข้าชมงานมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากกว่าร้อยละ 50 โดยผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่พึงพอใจในการได้รับความรู้เรื่องข้าว การแปรรูปข้าว และผลิตภัณฑ์ข้าว การนำไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพ สถานที่จัดงาน ความเหมาะสมของระยะเวลาการจัดงาน กิจกรรมบนเวที ร้านจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ อาหารสำเร็จรูป เป็นต้น
โอกาสนี้ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในนามสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร กรมประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการจัดงาน หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเกษตรกรรายย่อย ผู้ผลิตและผู้จำหน่าย ที่ได้ช่วยกันดำเนินงาน “วิถีข้าว วิถีไทย” ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2558 จนถึงวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดงานดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนด ทั้งนี้การจัดงาน “วิถีข้าว วิถีไทย” เป็นดำริของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้เกษตรและผู้ประกอบการรายย่อยได้นำเสนอและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวและสินค้าแปรรูปจากข้าวให้กับประชาชนชาวกรุงเทพฯ ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับคุณค่าของข้าวไทยและสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ข้าวได้โดยตรงจากเกษตรกร ซึ่งมูลค่าการซื้อขายสินค้าผลิตภัณฑ์ข้าวสะสมจนถึงวันนี้ รวมประมาณ 7 ล้านบาท มีผู้สนใจเข้าร่วมชมงาน ประมาณ 48,000 คน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการจัดงานครั้งนี้ก็คือการที่กรมการข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มีการนำเสนอและให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าของข้าวไทยให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อเกิดความตระหนักในคุณค่าของข้าวและหวงแหนทรัพยากรข้าวไทย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้าวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวไทยจะเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศตลอดไป
พร้อมกันนี้ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวชื่นชมคณะกรรมการจัดงาน หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร กรมประชาสัมพันธ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมาคมเชฟประเทศไทย รวมถึงเกษตรที่ร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้าซึ่งได้รับความร่วมมือและสนับสนุนการจัดงานเป็นอย่างดียิ่งตลอดระยะเวลาการจัดงาน 30 วัน ทั้งนี้ การจัดงาน “วิถีข้าว วิถีไทย” ระหว่างวันที่ 5 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการกระตุ้นให้คนไทยเห็นความสำคัญของข้าว ซึ่งผู้ที่ได้เข้าร่วมงานนี้ล้วนได้รับความรู้ ความเข้าใจในคุณค่าของข้าวไทยเพิ่มขึ้น ตระหนัก และรู้สึกสำนึกหวงแหนทรัพยากรข้าวไทย รวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้มีการพบปะระหว่างผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้บริโภคโดยตรง เป็นการเปิดช่องทางและขยายตลาดให้กว้างขวางมากขึ้น
ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการจัดงาน “วิถีข้าว วิถีไทย” แล้ว ต่อจากนี้ในเดือนพฤษภาคม 2558 จะมีการจัดงานตลาดผลไม้ ต่อด้วยตลาดไม้ดอกไม้ประดับ และตลาดเกษตรกร โดยต้องขอชื่นชมวิสัยทัศน์ของ นายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ที่ได้เล็งเห็นประโยชน์ในการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตได้นำสินค้าคุณภาพมาจำหน่ายให้ผู้บริโภคโดยตรง ส่งผลให้ผู้ผลิตสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่สอดคล้องและตรงกับความต้องการของผู้บริโภค อันจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพของผู้ผลิตและผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่อไปในอนาคต
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th