นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2558ว่า “เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ยังคงมีสัญญาณการชะลอตัวทั้งจากการใช้จ่ายภาคเอกชนและการส่งออก อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่สามารถขยายตัวในระดับสูง และภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ นอกจากนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี” ทั้งนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจไทยล่าสุดในรายละเอียดพบว่า
การบริโภคภาคเอกชนในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ส่งสัญญาณชะลอลง สะท้อนจากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ที่จัดเก็บบนฐานการบริโภคภายในประเทศ ขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4 ต่อปี จากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 9.5 ต่อปี โดยภาพรวมยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ หดตัวที่ร้อยละ -2.1 ต่อปีตามการหดตัวของการจัดเก็บบนฐานการนำเข้าที่หดตัวร้อยละ -8.4 ต่อปี สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ที่ระดับ 68.4 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการทรงตัวในระดับต่ำของราคาพืชผลทางการเกษตร อย่างไรก็ดี ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคเริ่มส่งสัญญาณบวกกลับมาขยายตัวสูงถึงร้อยละ 32.5 ต่อปี ซึ่งมาจากการนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เสื้อผ้ารองเท้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ ผักผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักผลไม้ และนาฬิกาและส่วนประกอบ เป็นต้น นอกจากนี้ ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ขยายตัวได้เล็กน้อยที่ร้อยละ 0.7 ต่อปี จากการปรับตัวดีขึ้นของยอดขายรถจักรยานยนต์ในเขตภูมิภาคเป็นสำคัญที่ขยายตัวร้อยละ 11.9 ต่อปี
การลงทุนภาคเอกชนในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ยังคงชะลอตัว โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดก่อสร้างสะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์หดตัวที่ร้อยละ -2.4 ต่อปี สำหรับภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ส่วนหนึ่งเกิดจากการเร่งโอนอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากการคาดการณ์ของภาคเอกชนถึงการบังคับใช้ภาษีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการรับมรดก โดยขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 10.4 ต่อปีแต่หดตัวร้อยละ -3.4 ต่อเดือน สำหรับการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ หดตัวเช่นกันที่ร้อยละ -9.6 ต่อปี อย่างไรก็ดี มีสัญญาณดีขึ้นบ้างจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนที่ขยายตัวร้อยละ 5.9 ต่อปี
สถานการณ์ด้านการคลังในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 สะท้อนบทบาทนโยบายการคลังในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทย ผ่านการขาดดุลงบประมาณ โดยรัฐบาลขาดดุลงบประมาณในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 จำนวน 8.5 พันล้านบาท มาจากการจัดเก็บรายได้สุทธิ (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) ได้จำนวน 149.8 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.5 ต่อปี อย่างไรก็ตาม การเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เบิกจ่ายได้จำนวน 150.4 พันล้านบาท หรือหดตัวร้อยละ -13.7 ต่อปี
สำหรับอุปสงค์จากต่างประเทศผ่านการส่งออกสินค้าในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 หดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า โดยหดตัวที่ร้อยละ -6.1 ต่อปี โดยการส่งออกที่กลับมาหดตัวมีปัจจัยสำคัญมาจากการส่งออกสินค้าในหมวดสินค้าเกษตร แร่และเชื้อเพลิง ยานยนต์ และอุตสาหกรรมเกษตร โดยตลาดส่งออกที่หดตัวลง ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน-5 เป็นหลัก
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ชี้แจงข้อมูลเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติมว่า สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานพบว่า ภาคการท่องเที่ยวต่างชาติที่สามารถขยายตัวในระดับสูงเป็นแรงสำคัญในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยข้อมูลเบื้องต้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวน 2.69 ล้านคนขยายตัวร้อยละ 29.6 ต่อปี และในช่วง 13 วันแรกของเดือนมีนาคม 2558 มีจำนวน 1.10 ล้านคน ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 27.6 ต่อปี สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยวต่างประเทศ สำหรับ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เบื้องต้น) กลับมาขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 22 เดือน ที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ที่ระดับ 88.9 จากความกังวลต่อสภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจในประเทศ การชะลอการใช้จ่าย และคำสั่งซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอโดยเฉพาะกำลังซื้อในภาคเกษตร จากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 กลับมาหดตัวที่ร้อยละ -3.8 ต่อปี และ -1.3 ต่อเดือน ตามการหดตัวของผลผลิตข้าวเปลือก และยางพารา เป็นสำคัญ ส่วนผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.8ของกำลังแรงงานรวม หรือคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงาน 3.16 แสนคน ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปหดตัวตามการลดลงของราคาน้ำมันดิบโลกเป็นสำคัญมาอยู่ที่ร้อยละ -0.5 ต่อปี สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทอยู่ในระดับที่มั่นคงโดยทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงที่ 156.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.7 เท่าสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้
รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2558
“เศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ยังคงมีสัญญาณการชะลอตัวทั้งจากการใช้จ่ายภาคเอกชนและการส่งออก อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่สามารถขยายตัวในระดับสูง และภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ นอกจากนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี”
1. การบริโภคภาคเอกชนในเดือนกุมภาพันธ์ 2558ส่งสัญญาณชะลอลงสะท้อนจากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บบนฐานการบริโภคภายในประเทศ ณ ราคาคงที่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ที่ขยายตัวได้ร้อยละ 2.4 ต่อปี ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 9.5 ต่อปี ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บบนฐานการนำเข้า ณ ราคาคงที่ ยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -8.4 ต่อปี ซึ่งส่งผลให้ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 หดตัวที่ร้อยละ -2.1 ต่อปี สอดคล้องกับปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ที่ยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -12.5 ต่อปี และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 อยู่ที่ระดับ 68.4ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการทรงตัวในระดับต่ำของราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะข้าวและยางพารา อย่างไรก็ดี ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ขยายตัวเป็นบวกเป็นเดือนที่ 2 ที่ร้อยละ 0.7 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก (m-o-m SA) พบว่าขยายตัวที่ร้อยละ 2.0 ต่อเดือน เนื่องจากการปรับตัวดีขึ้นของยอดขายรถจักรยานยนต์ในเขตภูมิภาคเป็นสำคัญ โดยขยายตัวร้อยละ 11.9 จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -2.2 ต่อปีนอกจากนี้ ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 พบว่า ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 32.5 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก (m-o-m SA) พบว่าขยายตัวที่ร้อยละ 10.0 ต่อเดือน โดยมาจากการนำเข้าสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เสื้อผ้ารองเท้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ ผักผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักผลไม้ และนาฬิกาและส่วนประกอบ ซึ่งขยายตัวร้อยละ 48.4 32.6 73.2 และ 52.1 ต่อปี เป็นต้น
2. การลงทุนภาคเอกชนในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ยังคงชะลอตัว โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดก่อสร้างสะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 พบว่าหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -2.4 ต่อปี แต่เมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก(m-o-m SA) พบว่า สามารถขยายตัวได้ร้อยละ 2.2 ต่อเดือน สะท้อนให้เห็นว่าการลงทุนในหมวดการก่อสร้างยังคงทรงตัว อย่างไรก็ดี ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งขยายตัวร้อยละ 10.4 ต่อปี ส่วนหนึ่งเกิดจากการเร่งโอนอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากการคาดการณ์ของภาคเอกชนถึงการบังคับใช้ภาษีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการรับมรดก สำหรับการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 หดตัวชะลอลงที่ร้อยละ -9.6 ต่อปี อย่างไรก็ดี มีสัญญาณดีขึ้นจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนที่ขยายตัวได้ร้อยละ 5.9 ต่อปี
3. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจไทยด้านการคลังในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 สะท้อนบทบาทนโยบายการคลังในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทย ผ่านการขาดดุลงบประมาณโดยดุลงบประมาณในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ขาดดุลจำนวน -8.5 พันล้านบาท ทั้งนี้ ในการเบิกจ่ายงบประมาณ รัฐบาลสามารถเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ได้จำนวน 150.4 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -13.7 ต่อปี โดยรายจ่ายงบประมาณปีปัจจุบันสามารถเบิกจ่ายได้จำนวน 131.4 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -14.7 ต่อปี แบ่งออกเป็น (1) รายจ่ายประจำ 109.7 พันล้านบาท หดตัว ร้อยละ -22.7 ต่อปี และ (2) รายจ่ายลงทุน 21.8 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 78.4 ต่อปี สำหรับการจัดเก็บรายได้รัฐบาลพบว่า รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิ (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ได้จำนวน 149.8 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.5 ต่อปี โดยมีรายการสำคัญ คือ (1) ภาษีฐานบริโภค (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) จัดเก็บได้ลดลงร้อยละ -2.7 ต่อปี จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าที่ลดลงร้อยละ -8.9 ต่อปี อย่างไรก็ดี การจัดภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคภายในประเทศขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 1.6 ต่อปี สะท้อนการบริโภคที่ยังคงขยายตัวได้ดี และ (2) การจัดเก็บภาษีฐานรายได้ จัดเก็บได้ลดลงร้อยละ -0.8 ต่อปี โดยการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ลดลงร้อยละ -2.1 ต่อปี ขณะที่ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ต่อปี
4. การส่งออกสินค้าในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 การส่งออกสินค้าของไทยในรูปดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่า 17.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ -6.1 ต่อปี โดยการส่งออกที่ยังคงหดตัวต่อเนื่องมีปัจจัยหลักมาจากการส่งออกสินค้าในหมวดสินค้าเกษตร แร่และเชื้อเพลิง ยานยนต์ และอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวร้อยละ -17.5-24.7 -1.7 และ -3.9 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ยังมีสินค้าส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ที่ขยายตัวร้อยละ 0.4 และ 0.4 ต่อปี เป็นสำคัญ สำหรับตลาดส่งออกหลักที่หดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ได้แก่ ประเทศจีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน-5 ที่หดตัวร้อยละ -15.1 -11.7 -4.7 และ -16.4 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่า 16.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 1.5 ต่อปี ทั้งนี้ มูลค่าส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐที่มีมูลค่าสูงกว่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เกินดุล 0.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
5. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานพบว่า ภาคการท่องเที่ยวต่างชาติที่สามารถขยายตัวในระดับสูง เป็นแรงสำคัญในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่ประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.65 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 16.3 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก (m-o-m SA) พบว่า ขยายตัวได้ร้อยละ 0.2 ต่อเดือน โดยนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีมาจากกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอาเซียน เป็นหลัก ซึ่งขยายตัวร้อยละ 39.5 และ 49.3 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มยุโรปและโอเชียเนียหดตัวร้อยละ -14.3 และ -6.4 ต่อปี อย่างไรก็ดี ข้อมูลเบื้องต้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.69 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 29.6 ต่อปี และในช่วง 13 วันแรกของเดือนมีนาคม 2558 มีจำนวน 1.10 ล้านคน ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 27.6 ต่อปี สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยวต่างประเทศ สำหรับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เบื้องต้น) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 กลับมาขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 22 เดือน ที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 อยู่ที่ระดับ 88.9 และถือเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 จากความกังวลต่อสภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจในประเทศการชะลอการใช้จ่าย และคำสั่งซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอโดยเฉพาะกำลังซื้อในภาคเกษตรจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ ภาคเกษตรกรรมสะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 กลับมาหดตัวที่ร้อยละ -3.8 ต่อปี ตามการหดตัวของผลผลิตข้าวเปลือก ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นสำคัญ แต่ผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของผลผลิตสุกร ไก่เนื้อและไข่ไก่ เป็นสำคัญ
6. ด้านเสถียรภาพในประเทศยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่เสถียรภาพต่างประเทศอยู่ในระดับมั่นคง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 หดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -0.5 ต่อปี จากการลดลงของราคาสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่เมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก (m-o-m SA) พบว่าขยายตัวร้อยละ 0.12 ต่อเดือน จากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาค่าโดยสารรถร่วมประจำทาง และราคาอาหารสำเร็จรูป เป็นปัจจัยหลัก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.5 ต่อปี สำหรับอัตราการว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 อยู่ที่ร้อยละ 0.8 ของกำลังแรงงานรวม หรือคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงาน 3.16 แสนคน ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ล่าสุด ณ สิ้นเดือนมกราคม 2558 อยู่ที่ร้อยละ 46.5 ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 60.0 สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับมั่นคงและสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ ซึ่งสะท้อนได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 156.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.7 เท่า
ที่มา : กระทรวงการคลัง
ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th