พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กรณีชาวสังคมออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของเด็กชาย อายุ ๒ ขวบ ถูกพ่อเลี้ยง อายุ ๒๙ ปี ที่มีอาการมึนเมาทำร้ายร่างกาย ทุบตี และจับทุ่มกับพื้น ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี กรุงเทพฯ ตนมีความห่วงใยปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้น กับเด็ก จึงมอบหมายให้กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.)และกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)ร่วมกันหาแนวทางการป้องกันปัญหานี้ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับรถกระบะที่กำลังขนคนต่างด้าวชาวพม่า จำนวน ๑๘ คน ลักลอบเข้าเมืองที่จังหวัดเชียงราย จากนั้นขยายผลตรวจสอบรีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ พบชาย หญิง และเด็ก สัญชาติพม่าอีก ๗๕ คน ตรวจสอบพบเพียงบัตรผ่านแดนชั่วคราว มาจากอำเภอท่าขี้เหล็ก จังหวัดเชียงราย ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย (พมจ.เชียงราย)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อนำผู้เสียหายทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และผลักดันกลับประเทศต่อไป และจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชลบุรี ตามจับกุมชาย อายุ ๓๔ ปี ผู้ต้องหาจี้ชิงทรัพย์แม่ค้าสาว อายุ ๑๗ ปี ที่ยืนขายของอยู่บริเวณริมถนน โดยขู่บังคับให้ขึ้นรถกระบะเพื่อชิงทรัพย์ จากนั้นพาไปข่มขืนกระทำชำเราต่อ ที่จังหวัดชลบุรี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี (พมจ.ชลบุรี)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้เสียหายและครอบครัวโดยด่วน อีกกรณีหญิงชรา อายุ ๗๔ ปี พิการหลังค่อม หูหนวก สายตาฝ้าฟาง หาบเร่ขนมขายหาเลี้ยงชีพ แต่ถูกรถชนขาหัก เพราะไม่ได้ยินเสียงแตรรถ ฐานะยากจนไม่มีเงินค่ารักษาพยาบาล ที่จังหวัดศรีสะเกษ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ (พมจ.ศรีสะเกษ)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือ ในเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th